![]() |
จรัส สุวรรณเวลา ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา กล่าวว่า คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจฯ ได้มีการหารือแล้วว่าต้องมีการปรับโจทย์อุดมศึกษาใหม่ คือทำให้อุดมศึกษาเป็น 4.0 เพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 หลังจากนี้จะมีการศึกษาเพื่อดูว่าต้องแก้ไขร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาในส่วนใด เมื่อได้คำตอบว่าการปฏิรูปอุดมศึกษาควรที่จะดำเนินการอย่างไร ขั้นตอนต่อไปคือการดำเนินการแก้ไข เช่น ความรับผิดชอบของสถาบันอุดมศึกษา การปรับครั้งนี้ถือว่าเป็นการปรับแก้ระบบอุดมศึกษาครั้งใหญ่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็จะนำไปสู่การแก้กฎหมายและจะเป็นการตอบคำถามว่าจำเป็นต้องมีกระทรวงการอุดมศึกษาหรือไม่ สำหรับตนแล้วในภาพรวมคิดว่ามีความจำเป็นอย่างชัดเจนที่ต้องมีกระทรวงการอุดมศึกษา แต่ทั้งนี้ หากคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา ต้องการที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ให้รัฐบาลพิจารณาก็สามารถดำเนินการได้ “เราต้องมีการปฏิรูปอุดมศึกษาซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการอิสระฯ อยู่แล้ว และขณะนี้ก็มีทำงานแบบรวมพลังกัน เพราะในคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา ก็มีกรรมการที่มาจากคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษาอยู่ด้วย และทั้ง 2 คณะก็มีหารือร่วมกันมาโดยตลอด” ศ.นพ.จรัสกล่าว ด้าน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะกรรมการคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา กล่าวว่า การเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่ ครม.นั้น คณะทำงานไม่สามารถเป็นผู้เสนอได้ ตามกระบวนการคือเสนอต่อ รมว.ศึกษาธิการ หากเห็นชอบก็จะเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายเข้า ครม.เพื่อพิจารณา และเข้าสู่สภานิติบัญญัติต่อไป ซึ่งกฎหมายที่นำเข้า ครม.นั้นก็ต้องรับฟังความคิดของผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียทั้งหมด ซึ่งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา ถือเป็นหนึ่งของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งคณะทำงานเตรียมการจัดตั้งฯ ก็ต้องรับฟังความคิดเห็น และขณะนี้ก็กำลังรอฟังข้อสรุปของคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษาฯ. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 13 พ.ย. 60 อ่าน 1345 ครั้ง คำค้นหา : |