เดาโฉมใหม่การศึกษา จากรายชื่อสปช.



“ศ.ดร.ไพฑูรย์ ”เผยเห็นรายชื่อสปช.ด้านการศึกษาก็มองเห็นโฉมหน้าการศึกษาในอนาคต มั่นใจปฏิรูปรอบนี้เน้นการศึกษานอกระบบ-ทางเลือก-เอกชนมากขึ้น

วันนี้ (14ต.ค.) ศ.ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์และประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวถึงรายชื่อสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ด้านการศึกษา ว่า มีลักษณะที่แตกต่างไปจากคณะปฏิรูปฯที่ผ่านๆ มา คือ คณะปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมาจะค่อนข้างเน้นผู้ที่อยู่ในวงการศึกษาในระบบเป็น หลัก แต่คณะปฏิรูปการศึกษาชุดนี้ เป็นกลุ่มอยู่ในวงการศึกษานอกระบบและการศึกษาทางเลือกค่อนข้างมาก และมีลักษณะการทำงานที่หลากหลาย ดังนั้นจึงทำให้พอมองเห็นโฉมหน้าการศึกษาไทยได้บางประการ คือ 1.แนวปฏิรูปการศึกษาจะเน้นไปทางการศึกษานอกระบบการศึกษาทางเลือก และการศึกษาเอกชนมากขึ้น เพราะคณะกรรมการชุดนี้ไม่ค่อยเชื่อการศึกษาในระบบมากนัก 2.นอกจากไม่ค่อยเชื่อมั่นการศึกษาในระบบแล้วก็ยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในกระทรวง ศึกษาธิการที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเห็นว่าเป็นกระทรวงที่ใช้เงินมาก แต่ได้ผลน้อยตามที่กล่าวขวัญกัน แนวปฏิบัติคงเน้นที่การทำให้กระทรวงศึกษาธิการเล็กลง ขณะเดียวกันก็เห็นว่าที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการรวบอำนาจมากเกินไปจึงเป็นไป ได้ว่าคณะปฏิรูปการศึกษาชุดนี้คงจะเน้นการกระจายอำนาจไปสู่ชุมชนมากขึ้น

“เท่าที่ดูคณะกรรมการชุดนี้แล้ว พบว่ามีความคุ้นเคยกับสถาบันผลิตครูในระบบปกติน้อย ยกเว้นอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฏร์ธานี จึงเชื่อว่าครูในระบบปกติมีความสามารถน้อยสู้คนที่เรียนมาทางวิชาการโดยตรง ไม่ได้ แนวโน้มจึงเชื่อได้ว่าจะหาทางให้คนที่อยู่ในวิชาชีพต่างๆ มาเป็นครูได้ง่ายขึ้น ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจะมีความสำคัญน้อยลงไปอย่างมาก ความคิดเรื่องใครๆ ก็เป็นครูได้โดยไม่ต้องฝึกอบรมทางครูจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นการศึกษาจะถูกตีความให้กว้างขึ้น การเรียนการสอนตามชุมชน เรือกสวน ไร่ นา จะมีความสำคัญขึ้น ทำให้บทบาทของการศึกษาแนวอาชีพจะได้รับการผลักดันมากขึ้น การศึกษาจะหลากหลาย และการศึกษาในระบบจะลดความสำคัญลงไป แต่ที่ยังไม่ชัดเจนก็คือ คุณภาพของคนไทยยุคใหม่จะเป็นอย่างไร และจะผลักดันให้การศึกษาไทยมีคุณภาพจริงจังขึ้นได้อย่างไร ซึ่งยังไม่เห็นใครชี้ชัดเจน” ศ.ดร.ไพฑูรย์ กล่าวและว่า หลายประเด็นจากโฉมหน้าใหม่ที่คาดเดานี้ เป็นทิศทางที่น่าสนใจ แต่จะทำให้ประชาชน และบุคลากรทางการศึกษาส่วนใหญ่เห็นพ้องและคล้อยตามได้อย่างไร มิฉะนั้นวงล้อประวัติศาสตร์ก็จะกลับมาทุกอย่างจะกลับไปสู่สภาพเดิมก่อนการ ปฏิรูป

 

 

 

ที่มา เดลินิวส์ วันอังคาร 14 ตุลาคม 2557


โพสเมื่อ : 15 ต.ค. 57   อ่าน 1375 ครั้ง      คำค้นหา :