อดีต กก.คุรุสภาไม่แปลกใจคสช.ใช้ม.44 โยกย้าย11ขรก.ระดับสูง ศธ.

นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ อดีตประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยกรณีหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มีคำสั่งโยกย้ายนางสุทธศรี วงษ์สมาน พ้นจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ไปเป็นเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.), นายพินิติ รตะนานุกูล พ้นจากเลขาธิการ สกศ.ไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.), นพ.กำจร ตติยกวี พ้นจาก เลขาธิการ กกอ.ไปเป็นปลัด ศธ., นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร พ้นจากเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ไปเป็นผู้ตรวจราชการ ศธ., นายอดินันท์ ปากบารา พ้นจากผู้ตรวจราชการ ศธ.ไปเป็นเลขาธิการ กช.และนางรัตนา ศรีเหรัญ พ้นจากรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไปเป็นเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)

รวมทั้ง ออกคำสั่งให้คณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและ สวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.)พ้นจากตำแหน่งและมีคำสั่งให้นาย อำนาจ สุนทรธรรมเลขาธิการคุรุสภา, นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการ สกสค.และนายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ หยุดการปฏิบัติหน้าที่ไปก่อนจนกว่าหัวหน้า คสช.จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ว่า ส่วนตัวแปลกใจที่ คสช.มีคำสั่งดังกล่าวออกมา แต่ยังไม่ขอให้ความเห็น คงต้องรอดูท่าทีว่า พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้านนายสุรวาท ทองบุ อดีตกรรมการคุรุสภา กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวกะทันหัน และไม่เคยมีสัญญาณใดมาก่อนเลย แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนเหตุผลในการออกคำสั่ง น่าจะเป็นไปตามที่ระบุในราชกิจจานุเบกษาว่าเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการ ปฏิรูปการศึกษา

ส่วนเหตุผลลึกๆ นั้นไม่ทราบ แต่เป็นไปได้ว่าที่ผ่านมามีปัญหาร้องเรียนเรื่องการคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน คณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) ว่าไม่โปร่งใสและไม่ชอบมาพากลในการสรรหาผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา 169 เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา แม้ขั้นตอนต่างๆ จะดำเนินการเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ามีผู้ใดไปร้องเรียนเพิ่มเติมหรือไม่

"อยากให้คณะกรรมการคุรุสภาชุดใหม่สานงานต่อจากที่ได้ดำเนินการมาแล้ว ทั้งการทำความเข้าใจกับสถาบันฝ่ายผลิต ให้ผลิตบัณฑิตได้ตรงในสาขาที่ต้องการ รวมถึง กำหนดมาตรการการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้เข้มข้นมากขึ้น และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเดินมาถูกทางแล้ว"

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2558