![]() |
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยความคืบหน้าการทวงคืนทรัพย์สินจากบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด หลังพบหลักทรัพย์ค้ำประกันที่นำมาใช้แลกตั๋วเงินกับกองทุนสนับสนุนพิเศษกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 2,500 ล้านบาทไม่มีมูลค่าตามที่ระบุว่า สกสค.ได้ทำหนังสือถึงบริษัทบิลเลี่ยนฯทวงถามให้ใช้เงินคืนบวกดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีตามสัญญาแล้ว หากไม่สามารถใช้เงินคืนก็จะดำเนินการทางกฎหมายเพราะถือเป็นคดีอาญา พร้อมกันนี้จะตรวจสอบว่ามีผู้ใดได้รับผลประโยชน์ทางอื่นจากการอนุมัติกู้ยืมครั้งนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตามการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์สินอดีตผู้บริหาร สกสค. 183 ล้านบาท ก็อาจเป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ได้ทรัพย์สินคืนมา ต่อข้อถามว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะยื่นขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ปลัด ศธ.กล่าวว่า คงต้องนำเข้าหารือบอร์ด สกสค. ซึ่งกำลังรอ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานบอร์ด สกสค.นัดประชุมเร็วๆนี้ แต่มีข้อกฎหมายที่ทำได้คือ เชื่อว่ามีการยักย้ายถ่ายเทเงินของ สกสค.จึงต้องอาศัยอำนาจของดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบปัญหาการทุจริตภายในองค์การค้า ของ สกสค.นั้น ได้มอบหมายให้นายสุเทพ ชิตยวงศ์ ผู้ตรวจฯ ศธ. ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.องค์การค้าฯ ไปปรับลดค่าใช้จ่าย รวมถึงได้ตั้งคณะกรรมการประเมินผลการปฏิบัติงานของนายสมมาตร มีศิลป์ ผอ.องค์การค้าฯ อีกครั้ง เพราะการประเมิน 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่เชื่อมั่นในองค์ประกอบของคณะกรรมการ เพราะประเมินโดยอดีตบอร์ด สกสค. ทั้งนี้หากผลการประเมินพบว่าการทำงานไม่มีประสิทธิภาพก็อาจพิจารณายกเลิกสัญญาจ้างต่อไป. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 09 มิ.ย. 58 อ่าน 1375 ครั้ง คำค้นหา : |