เตือนสกสค.

เตือนสกสค.

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

เศษเสี้ยวมหากาพย์อันเป็นตำนานแห่งความไม่โปร่งใส ในสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการ ศึกษา (สกสค.) ที่แยกร่างมาจากคุรุสภา ยังคงไม่อาจจบได้โดยง่ายกับหลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นซ้ำซาก มากด้วยกลวิธีที่พลิ้วไหวชนิดยากจะนำตัวคนผิดมาลงโทษได้โดยง่าย

มองไปที่คณะกรรมการส่วนใหญ่ในสกสค. ล้วนมาจากกลุ่มครูผู้แทน

แม้จะมีนโยบายสั่งห้ามจากเจ้ากระทรวง ไม่ให้ดำเนินการต่อในบางโครงการ ก็ดูเป็นเรื่องแทบไม่มีความหมาย เพราะมากด้วยเครือข่ายของผู้แทนครูในบอร์ดบริหารทุกรูปแบบ ที่แตกเนื้อแตกกอเป็นคณะต่างๆ ขึ้นมาบริหารจัดการมากมาย คอยเป็นด่านสกัดกั้นในลักษณะ ลับ ลวง พราง

ยิ่งมองไปถึงเม็ดเงินจำนวนมหึมาที่หายไปในกลุ่มผู้บริหาร ในลักษณะผลิตตำราเรียนไม่ทัน จึงใช้ทั้งวิธีพิเศษ เช่าเครื่องพิมพ์ จ้างเอกชนพิมพ์ในราคาที่สูง รวมไปถึงทำสัญญาให้บริษัทยักษ์เอกชนซื้อหนังสือเรียนและสินค้าอื่นๆ กับองค์การค้า มูลค่า 1,400 ล้านบาท โดยไม่เปิดประมูล

นี่ยังไม่รวมการร้องเรียนถึงสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ในการทำงานของผอ.องค์การค้าฯ ข้อหายักยอกทรัพย์สินองค์การค้าที่สั่งจ่ายเช็คเงินสด 55 ล้านบาทให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่มีอำนาจการสั่งจ่าย

รวมถึงสรรหาผอ.องค์การค้า มีคุณสมบัติต้องห้าม อาจเป็นไปโดยมิชอบ และพบปมสกสค.ส่อทุจริตที่สั่งจ่ายเช็ค 55 ล้านให้เอกชน จัดซื้อจัดจ้างสร้างอาคารศูนย์พัฒนาครูในจ.เชียงใหม่ไม่โปร่งใส มูลค่าโครงการ 360 ล้านบาท ที่วันนี้ยังสร้างไม่เสร็จ

ล่าสุดแห่งความอึกทึกฉาวโฉ่ที่กำลังทำให้สังคมไทย ตลอดจนครู และบุคลากรทางการศึกษาของบ้านเมืองนี้ต้องอกสั่นขวัญแขวน เพราะมีการได้นำเงินกองทุน ช.พ.ค. ปัจจุบันมียอดกว่า 6 พันล้านบาท ไปปล่อยให้เอกชนที่ไม่มีกิจการแน่นอนกู้ ปี 2556 รวม 500 ล้านบาท และปี 2557 อีก 2,100 ล้านบาท รวม 2,600 ล้านบาท

ที่สำคัญ บริษัทเอกชนรายนี้จดทะเบียนยังไม่ถึง 3 ปี ครบสัญญาจ่ายเงินต้นแล้วตั้งแต่ธันวาคมปี 2557 ป่านนี้ยังไม่สามารถส่งคืนเงินต้นคืน ถามว่าใครต้องรับผิดชอบ

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 03 เมษายน พ.ศ. 2558