ศธ.ส่อห้าม "ผอ.สถานศึกษา" อนุมัติตัวเอง "ลา-ไปราชการ"

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมผู้บริหารสถานศึกษา อาชีวศึกษารัฐและเอกชนทั่วประเทศ ว่า อาชีวศึกษารัฐและเอกชนต้องทำงานร่วมกัน ตนมีนโยบายว่าองค์หลักใน ศธ.จะต้องทำงานเชื่อมโยงกัน และต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยตนกำลังดูกลไกการขับเคลื่อนในส่วนภูมิภาค ที่ขณะนี้ผู้อำนวยการวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) 400 กว่าแห่งขึ้นตรงกับส่วนกลาง ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) เป็นหน่วยประสาน แต่ก็มีจำนวนน้อยที่ทำหน้าที่เป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานได้ดี และได้ดีในระดับคะแนนเพียง 70% ขณะที่ส่วนใหญ่ได้คะแนนเฉียดฉิว 50% ตนกำลังดูเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงดูเรื่องการให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา อนุมัติให้ตัวเองลาและไปราชการด้วยตนเองได้ ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนทำนอกจาก ศธ.

"ขอให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาเพิ่มจำนวนผู้เรียน ดูแลเรื่องทวิศึกษา ทวิภาคี แก้ปัญหาการทะเลาะวิวาท การเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ของโรงเรียนสังกัด สพฐ. การยกระดับการเรียนภาษาอังกฤษให้สื่อสารได้ ขณะเดียวกันมอบให้นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) จัดทำหลักเกณฑ์การประเมินผลงานของผู้อำนวยการสถานศึกษาโดยเกณฑ์การประเมิน จะต้องเป็นไปตามบริบทของสถานศึกษา ไม่ใช้เกณฑ์เดียวกันทั้งหมด ส่วนผลประเมินจะนำไปใช้ทำอะไรนั้น ยังบอกไม่ได้ ทั้งนี้ขอให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาทุกแห่งเขียนรายงานปัญหาและข้อเสนอแนะส่ง ตรงถึงผม เพื่อให้คณะทำงานวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ปัญหา ที่ผ่านมาพอใจกับผลงานการขับเคลื่อนการปฏิรูปการอาชีวศึกษามาก ทุกผลงานที่ออกมาโชว์ได้หมด" รัฐมนตรีว่าการ ศธ.กล่าว