![]() |
ความคืบหน้ากรณี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(สกอ.) ศึกษาว่าควรจะแยกตัวออกจาก ศธ.หรือไม่
เนื่องจากโครงสร้างกระทรวงปัจจุบันใหญ่และอุ้ยอ้ายเกินไป
ทำให้การบริหารจัดการไม่คล่องตัว โดย
สอศ.ให้ศึกษาว่าควรแยกตัวไปจัดตั้งเป็นอีกกระทรวงหรือไม่
สกอ.ให้ศึกษาว่าให้แยกออกไปตั้งเป็นทบวงหรือกระทรวง ขณะที่
สกศ.ให้ศึกษาว่าควรจะกลับไปสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โดยให้เวลา 1
เดือน "แต่ทำไมไม่คิดว่าจะทำหรือ แก้ไขด้วยวิธีการอย่างอื่น เช่น หากมองว่าโครงสร้าง ศธ.ทำให้การบริหารจัดการของ ศธ.ไม่มีความคล่องตัว อาจจะเขียนกติกาที่ทำให้คล่องตัวมากกว่าการมาปรับโครงสร้างใหม่ที่จะต้องใช้ เวลาและใช้งบประมาณ ซึ่งยังไม่มีใครรู้คำตอบว่าหากปรับโครงสร้าง ศธ.แล้วจะได้คำตอบอย่างที่คาดหวังกันหรือไม่ ขอถามว่าความคล่องตัวในการบริหารจัดการอยู่ที่ตัวเราหรืออยู่ที่โครงสร้าง กันแน่" นายณรงค์กล่าว และว่า การปรับโครงสร้าง ศธ.เป็นเรื่องรอง เพราะเวลาพูดเรื่องการศึกษาของไทยจะต้องมาดูเรื่องของคุณภาพการศึกษา การเอาจริงเอาจังของคนในแวดวงการศึกษาที่จะช่วยกันผลักดันแก้ไขคุณภาพการ ศึกษาไทยให้ดีขึ้น ดังนั้น การเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ไม่ได้ตอบโจทย์เก่า แต่หากคิดว่าเปลี่ยนโครงสร้างศธ. ใหม่เพราะแค่ความคล่องตัว คิดว่าเป็นการคิดที่ง่ายไป แต่ไม่ได้หมายความว่าความคิดดังกล่าวผิด แต่ต้องตีโจทย์การศึกษาให้ตรงประเด็น เนื่องจากเวลาในการปฏิรูปประเทศ ปฏิรูปการศึกษามีจำกัดแค่ประมาณ 1 ปีเท่านั้น ฉะนั้นต้องตอบโจทย์ที่สำคัญก่อนเป็นอันดับแรก
ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557 |
โพสเมื่อ : 14 ต.ค. 57 อ่าน 1365 ครั้ง คำค้นหา : |