สพฐ.แยกประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมืองเพิ่มเนื้อหาวิชา




      

          นายอภิชาติ จีรวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้มีหนังสื่อแต่งตั้งนายวินัย รอดจ่าย ประธานกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เป็นประธานคณะกรรมการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เพื่อพิจารณาการแยกสองวิชานี้ออกมาจากหมวดสังคมศึกษาให้ชัดเจนขึ้นเพราะเห็นว่าหลักสูตรปัจจุบันวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมืองแม้จะมีอยู่แล้ว แต่จะรวมอยู่ในหมวดวิชาสังคมศึกษา และอาจจะมีเนื้อหาที่น้อยเกินไป ดังนั้น ตนจึงสั่งให้แยกวิชาประวัติศาสตร์ กับวิชาหน้าที่พลเมือง ออกมาให้ชัดเจน ส่วนวิชาศีลธรรมนั้นที่ผ่านมามักบังคับให้เด็กทุกคนต้องเรียนในวิชาพุทธศาสนาไม่ว่านักเรียนคนนั้นจะนับถือพุทธ คริสต์ หรืออิสลาม ก็จะต้องเรียนวิชาพุทธศาสนา ระยะหลังจึงได้ปรับการเรียนวิชาด้านศาสนาใหม่
          เลขาธิการ สพฐ.กล่าวต่อไปอีกว่า ตนหวังว่าเมื่อมีการแยกสองวิชานี้ออกมาอย่างต่างชัดเจนแล้ว น่าจะทำให้เด็กเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมืองได้ดีขึ้น เพราะก่อนนั้นที่เกิดเป็นปัญหาเนื่องจากครูส่วนใหญ่ไม่ศึกษาเนื้อหามักสอนไปตามหนังสือมากกว่าจึงเกิดจุดด้อยในการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน
          นายวินัย รอดจ่าย กล่าวว่า เมื่อตนได้รับหนังสือแต่งตั้งแล้วก็จะเรียกประชุมคณะกรรมการฯเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้เป็นการด่วน เนื่องจากกระทรวงศึกษาฯได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก
          ขณะที่นายกมล ลอดคล้าย รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่าที่ผ่านมาตนได้นำเรื่องการเรียนวิชาประวัติศาสตร์รายงานต่อพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายสังคมจิตวิทยา ในโอกาสที่เดินทางมาประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการแล้วเนื่องจากให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก เพราะพบว่า
          การเรียนวิชาประวัติศาสตร์ ว่า เมื่อ 7-8 ปีที่ผ่านมากระทรวงศึกษาฯได้นำวิชาประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ หน้าที่พลเมือง มารวมเป็นหมวดอยู่ในวิชาสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต(สปช.)จึงเกิดปัญหาเนื่องจากครูที่สอนวิชา สปช.เลือกสอนในหมวดที่ตนเองถนัดดังนั้น เมื่อแยกวิชาประวัติศาสตร์ และหน้าที่พลเมือง ออกมาเป็นรายวิชาชัดเจนอย่างนี้แล้ว ก็จะทำให้การสอนเพิ่มเนื้อหามากขั้น รวมทั้งจะก่อให้เกิดกิจกรรมมากขึ้น อาทิ ต้องพานักเรียนไปสัมผัสสถานที่ประวัติศาสตร์ วิชาหน้าที่พลเมืองหรือวิชาศีลธรรมก็พาเด็กไปวัดต่าง ๆด้วย เพื่อให้เกิดการซึมซับ เพราะคนไทยปัจจุบันรู้สิทธิ แต่ไม่ค่อยรู้หน้าที่ของคนเอง

          ที่มา: http://www.naewna.com



โพสเมื่อ : 02 มิ.ย. 57   อ่าน 1629 ครั้ง      คำค้นหา :