AEC ลั่นระฆังแล้ว



AEC ลั่นระฆังแล้ว

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]


ทันทีที่ก้าวสู่ปี พ.ศ.2559 ประเทศไทย เมียนมา เวียดนาม ลาว กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และ บรูไนดารุส-ซาลาม รวมแล้ว 10 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีประชากรกว่า 590 ล้านคน ได้ก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC)

 

มีคำตอบมากมายถึงประเทศไทยจะได้ประโยชน์จาก AEC ฟังแล้วดูดีหลายประการถึงการที่ไทยจะได้มีหน้ามีตามีฐานะ โดดเด่นขึ้นทั้งด้านการค้าเสรีและการลงทุน ส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นและจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงท้าทายประเทศ อย่างมหาศาล

 

ในโอกาสนี้ ขออนุญาตนำสรุปจากบทความวิชาการเรื่อง "ประเทศไทยในกระแส AEC : มายาคติ ความเป็นจริง โอกาส และความท้าทาย" ที่มี ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ดร.เสาวรัจ รัตนคำฟู และคณะวิจัยพบถึงความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของคนไทยต่อการเข้าสู่ AEC มานำเสนอให้เห็นบางส่วน ในสาระที่ว่าการเปิดเสรีการค้าสินค้าในปัจจุบันมีการลดภาษีศุลกากรให้ เป็น 0% เริ่มมาตั้งแต่ปี 2536 จึงแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้ และเรื่องการเปิดเสรีภาคบริการและการลงทุนยังไม่มีความ คืบหน้ามาก เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านกฎหมายภายในประเทศ ของไทย

 

ในข้อที่ว่าชาติอาเซียนจะถือหุ้นในธุรกิจบริการได้อย่างน้อย 100% ข้อเท็จจริงพบว่าไม่มีข้อกำหนด ที่บังคับให้สมาชิกประชาคมต้องแก้กฎหมายให้เข้ามาถือหุ้นในธุรกิจได้ และสำหรับประเทศไทยยังมี พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ไม่อนุญาตให้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 49 ในธุรกิจบริการ

 

สำหรับข้อเกี่ยวข้องเฉพาะวิชาชีพ 8 สาขา ได้แก่ อาชีพวิศวกร อาชีพพยาบาล อาชีพสถาปนิก อาชีพการสำรวจ อาชีพนักบัญชี อาชีพทันตแพทย์ อาชีพแพทย์ อาชีพการบริการ/การท่องเที่ยว ที่มีข้อตกลงกันแล้วให้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้อย่างเสรี

 

ข้อเท็จจริง คือ 8 สาขาดังกล่าว จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักวิชาชีพอาเซียน และผู้ที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยได้ต้องผ่านการสอบความรู้และมาตรฐาน วิชาชีพที่เป็นภาษาไทย ทำให้การเคลื่อนย้ายแรงงานจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย จึงยังไม่เกิดขึ้นทันที

 

ฟังอย่างนี้แล้ว อย่างน้อยก็ยังสบายใจไทยแลนด์กันได้อีก ระยะหนึ่ง 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 4 มกราคม 2559


โพสเมื่อ : 04 ม.ค. 59   อ่าน 1572 ครั้ง      คำค้นหา :