ว.นานาชาติ ม.รังสิต ร่วมกับ RSU WISDOM TV จัดสัมมนา "ASEAN 2015 & BEYOND" เสริมสร้างองค์คว




      

ว.นานาชาติ ม.รังสิต ร่วมกับ RSU WISDOM TV จัดสัมมนา ASEAN 2015 & BEYOND เสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับสังคมและนักศึกษา

          วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิตร่วมกับ RSU WISDOM TV จัดสัมมนาหัวข้อ ASEAN 2015 & BEYOND เพื่อบริการวิชาการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับสังคมและนักศึกษา โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ การเงินเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม และด้านธรุกิจกับการลงทุนตรงตามแผนกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัยรังสิต
          นางสาวภาวิณี ศิษย์ประเสริฐ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชา International Relation and Development วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า เนื่องจากตอนนี้อาเซียนกำลังจะเข้ามามีบทบาทต่อทุก ๆ ด้านในการดำรงชีวิตประจำวัน จึงส่งผลให้การรวมทรัพยากรในแต่ละประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม แรงงาน จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน สำหรับการเปิดรับอาเซียนซึ่งตรงนี้อาจจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกันเพราะว่าในการรวมตัวกันทำการค้ามากขึ้นนั้น ทั้งคนและแรงงานจะมีเสรีและอิสระมากขึ้น ผลเสียก็คือ หากประเทศไหนยังไม่พร้อมหรือยังไม่มีการพัฒนาเพื่อต้อนรับความเปลี่ยนแปลงประเทศนั้น ๆ ก็จะได้รับผลกระทบมากกว่า ดังนั้น หากเรามีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองไม่ว่าจะด้านใด ๆ ตามเราก็ไม่ควรที่จะปฏิเสธซึ่งจากการฟังสัมมนาในครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่าปัญหาของประเทศไทยในตอนนี้ คือเรื่องระบบทางการศึกษา เพราะหลังจากที่เปิดอาเซียน ทุกคนต้องพูดภาษาอังกฤษได้ และการค้าเสรีในประเทศอาเซียนจะเข้ามามีบทบาทในการแลกเปลี่ยนแรงงานมากขึ้นและต่อไปในอนาคตความต้องการของคนที่มีประสิทธิภาพในด้านของภาษาจะมากขึ้น
          นายวิทย์วสิน สิงหาผลิน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชา Asian Business management วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า สำหรับผมนั้น รู้สึกประทับใจการบรรยายจากวิทยากรมากครับ เพราะท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์ และให้ข้อคิดไว้ดี กิจกรรมนี้จึงนับเป็นประโยชน์ และสามารถทำให้เรามองเห็นมุมมองของผู้บริหาร ได้เรียนรู้ว่าอาเซียนนั้นจะมีทิศทางไปในทางใด มีผลดีอย่างไร และจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในวงกว้างอย่างไร ตรงนี้ทำให้เข้าใจอีกด้านหนึ่งของนักธุรกิจมากขึ้น
          กิจกรรมในครั้งนี้ถือว่าดีมากครับ อยากให้มีอีก เพราะผู้ที่เข้าร่วมได้ประโยชน์จากการฟังและคิดตาม ตัวผมเองก็มีธุรกิจส่วนตัว ต้องติดต่อประสานงานกับคนภายนอก ซึ่งหากมีการเปิดการค้าเสรีแล้วนั้น คงจะมีแรงงานที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น และการติดต่อเจรจาการค้าระหว่างประเทศก็จะมีโอกาสที่มากขึ้น เมื่อได้ฟังมุมมองของนักธุรกิจที่มาเป็นวิทยากรแล้วนั้น ทำให้เรามองเห็นภาพของอนาคตมากขึ้น และนั่นจะทำให้เราได้เรียนรู้และเตรียมพร้อมที่จะรับมือในการทำธุรกิจในอนาคตหากมีการรวมตัวของกลุ่มอาเซียนจะมีความน่าสนใจมากทางด้านของธุรกิจ ซึ่งต่อไปอาจมีธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยเยอะมากขึ้น และธุรกิจของเราเองสามารถออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น นับเป็นโอกาสในเรื่องของการจ้างงาน การงาน เศรษฐกิจของประเทศอาจจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไปในอนาคต นายวสุ แชมาร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชา International Business วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวทิ้งท้าย
 

        

 

  ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


โพสเมื่อ : 04 มิ.ย. 57   อ่าน 1326 ครั้ง      คำค้นหา :