สถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร

สถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร

          ผศ.ดร.ภูพงษ์ พงษ์เจริญ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยนเรศวร เปิดเผยว่า สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยนเรศวร ทั้งยังมีภารกิจในการสร้างเครือข่ายด้านศิลปวัฒนธรรม โดยใช้กระบวนการแบ่งปันผ่านหน่วยพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ได้แก่พิพิธภัณฑ์ชีวิต พิพิธภัณฑ์ผ้า และหอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านศิลปวัฒนธรรม อันเป็นแหล่งเรียนรู้ที่กระตุ้น ให้นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของวัฒนธรรมผ่านบริบทของการเดินชมพิพิธภัณฑ์
          ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล ผู้อำนวยการสถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า เส้นทางการเรียนรู้มหาวิทยาลัยนเรศวร ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์ชีวิต พิพิธภัณฑ์ผ้า และหอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร
          พิพิธภัณฑ์ชีวิต แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนทอผ้า ตั้งแต่กระบวนการปลูกและย้อมสีเส้นฝ้าย จนกระทั่งถักทอเป็นผืนผ้า พิพิธภัณฑ์ผ้า แหล่งเรียนรู้ด้านผ้าไทย จัดแสดงชุดฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และผ้าทอกลุ่มชาติพันธุ์ ในห้องนิทรรศการต่างๆ ได้แก่ ห้องพิพิธภัณฑ์ผ้าจิตรลดา ห้องพิพิธภัณฑ์ผ้าไทครั่ง ห้องพิพิธภัณฑ์ผ้าไทดำ และห้องนิทรรศการหมุนเวียน หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร แหล่งเรียนรู้งานศิลปกรรมแขนงต่างๆ จัดแสดงผลงานของศิลปินรุ่นใหม่ ศิลปินแห่งชาติ และศิลปินนานาชาติ นอกจากนี้ยังจัดให้มีกิจกรรมระหว่างการเที่ยวชม เช่น ต้นตอฝ้าย, ตัด แต่ง ตุง, ส่งกลับความประทับใจ, มัดลายใส่ผืนผ้า, RC วิถีชาติพันธุ์, Post it ศิลปะ เป็นต้น พร้อมรับของที่ระลึกกลับบ้าน ติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่งานพัฒนาแหล่งเรียนรู้ สถานอารยธรรมศึกษา โขง-สาละวิน มหาวิทยาลัยนเรศวร วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. หมายเลขโทรศัพท์ 055-961-207
          กิจกรรม เส้นทางการเรียนรู้มหาวิทยาลัยนเรศวร เดือนมิถุนายน 2557 ต้นตอฝ้าย ร่วมปลูกฝ้ายและศึกษาจุดกำเนิดของผืนผ้า จากเมล็ดพันธุ์ต้นแรก ณ พิพิธภัณฑ์ชีวิต ตัดแต่งตุง ตัดกระดาษสีสวยเป็นลวดลายต่างๆ สืบสานภูมิปัญญาโบราณที่แฝงด้วยคติความเชื่อ ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า ส่งกลับความประทับใจ ออกแบบโปสการ์ดในแบบฉบับของตัวเอง ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยนเรศวร

         ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง