จำนวนนศ.ไม่ใช่ความสำเร็จของมหาลัย



จำนวนนศ.ไม่ใช่ความสำเร็จของมหา'ลัย

อธิการบดี ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี ชี้จำนวนนักศึกษาไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จ อัตราการมีงานทำคือสารัตถะที่แท้ของมหาวิทยาลัย แนะมหา'ลัยไทย ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรตอบโจทย์ตลาดงานโลก

วันนี้(15ต.ค.) ผศ.ดร.ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี (มรส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทิศทางของการจัดการศึกษาเปลี่ยนไป เดิมทีสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ อาจวัดความสำเร็จกันที่จำนวนนักศึกษา หรือจำนวนบัณฑิต ว่าใครมีนักศึกษามากกว่า ผลิตบัณฑิตได้มากกว่า ก็ถือเป็นมหาวิทยาลัยใหญ่กว่า นำไปสู่กลยุทธ์ต่างๆ ในการแย่งชิงตัวผู้เรียน ซึ่งนับเป็นมายาคติที่ไม่ถูกต้อง เพราะสารัตถะที่แท้จริงของการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา คือ การมีงานทำของบัณฑิต


"การที่นักศึกษามาใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยถึง 4 ปี เสียเงินให้แก่การศึกษาหลายแสนบาท และจบออกไปโดยไม่มีงานทำ ถือเป็นความล้มเหลวของการจัดการศึกษา ดังนั้น การที่สถาบันอุดมศึกษาแห่งใดแห่งหนึ่งมีนักศึกษาเป็นจำนวนมาก หรือ ผลิตบัณฑิตได้จำนวนปีละมากๆ ไม่ใช่สิ่งที่สามารถนำมาใช้อวดอ้างความสำเร็จได้อีกต่อไป แต่ความสำเร็จที่แท้จริงของสถาบันอุดมศึกษา คือการที่นักศึกษาจบออกไปแล้วมีงานทำ หรือสร้างงานได้ด้วยตนเอง ไม่เช่นนั้นเวลาที่เสียไปและเงินทองที่จ่ายไปก็เท่ากับสูญเปล่า" ผศ.ดร.ประโยชน์ กล่าว


อธิการบดี มรส. กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีนักศึกษาในระดับปริญญาตรี กว่า 2,000,000 คน มีบัณฑิตจบใหม่ปีละประมาณ 600,000 คน ยิ่งสถาบันอุดมศึกษาผลิตบัณฑิตมากเท่าไหร่ ใบปริญญาก็ยิ่งล้นตลาดมากเท่านั้น และการหางานทำของบัณฑิตใหม่ก็ยิ่งยากขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้น สิ่งที่มหาวิทยาลัยไทยต้องทำ คือ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการของตลาดงาน ไม่ว่าจะเป็นตลาดงานท้องถิ่น ตลาดงานในประเทศ ในภูมิภาคอาเซียน ภูมิภาคเอเชีย หรือแม้แต่ตลาดโลก เพื่อให้เกิดการจัดการศึกษาที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบโจทย์ความต้องการ ของตลาดงานอย่างแท้จริง.

 

 

ที่มา เดลินิวส์ วันพุธ 15 ตุลาคม 2557


โพสเมื่อ : 16 ต.ค. 57   อ่าน 1334 ครั้ง      คำค้นหา :