"คสช."ไฟเขียวแยกกระทรวงกีฬา-"บิ๊กอ๊อด"เดินหน้าลั่นปีหน้าบริหารเอกเทศ

"บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการกีฬา ในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานว่าตนกำหนดกรอบนโยบายในการทำงานปฏิรูป 5 ข้อใหญ่ ประกอบด้วย 1.การแยกกระทรวงกีฬาออกจากงานท่องเที่ยว 2.การตั้งมหาวิทยาลัยกีฬา 3.การปรับปรุงกฎหมายกีฬา 4.การผลักดันอุตสาหกรรมกีฬา และ 5.การจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาตินั้น จริงๆ แล้วยังขาดไปอีก 1 เรื่องคือ การบริหารจัดการเรื่องสนามกีฬาขั้นพื้นฐานให้ครอบคลุมทุกระดับ ทั่วถึง ทันสมัย โดยกระบวนการดำเนินงานทุกวันนี้ได้เริ่มนับหนึ่งไปแล้ว ซึ่งคณะทำงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กำหนดกรอบการทำงานมา 2 หัวข้อใหญ่ คือ 1.โครงสร้าง และ 2.การบริหารจัดการกีฬา สำหรับหมวดหมู่โครงสร้างแยกเป็น 1.เรื่องแยกกระทรวง 2.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ 3.การปรับปรุงกฎหมายกีฬา 4.การตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาติ ส่วนหมวดหมู่การบริหารจัดการกีฬา จะมีงาน อาทิ การปฏิรูปแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติฉบับที่ 5 โดยต้องเอา 6 ยุทธศาสตร์กีฬามาปรับใช้อย่างจริงจัง, การผลักดันอุตสาหกรรมกีฬา


พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า ในส่วนที่เป็นประเด็นใหญ่คือ เรื่องของการแยกกระทรวงกีฬาออกจากงานท่องเที่ยวนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการคืนความสุขให้คนกีฬา ที่สำคัญที่ผ่านมาคณะทำงานศึกษาโครงสร้างกระทรวงต่างๆ ของ คสช. ได้ทำการศึกษาโครงสร้างในส่วนของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาออกมาเรียบร้อย แล้ว ปรากฏว่า คสช.มีความเห็นให้แยกกระทรวงกีฬาออกจากงานท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะส่งผลดีต่อโครงสร้างกีฬาของไทยในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ยังมีความเห็นพ่วงท้ายจากคณะทำงาน คสช.มาอีกว่า เรื่องบุคลากรที่จะเป็นปัญหาตามมาจะแก้ไขอย่างไร รวมถึงเรื่องการกำหนดคุณสมบัตินายกสมาคมกีฬาจังหวัดทั่วประเทศ ว่าควรต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง โดยขั้นตอนแรกในการเริ่มภารกิจแยกกระทรวงกีฬาออกมาเป็นเอกเทศแยกขาดจากงาน ท่องเที่ยวคือ การผลักดันให้มีการบรรจุหมวดหมู่กีฬาไว้ในรัฐธรรมนูญ อาทิ มาตราที่กำหนดบทบาทหน้าที่ของภาครัฐต่อการส่งเสริมและสนับสนุนกีฬา


"วันที่ 8 ธันวาคมนี้ ผมจะประชุมอนุคณะกรรมาธิการฯ เพื่อพิจารณายกร่างถ้อยคำกฎหมายต่างๆ เพื่อเตรียมเสนอขอความเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแห่งชาติในการประชุมวันที่ 9 ธันวาคม ก่อนที่ผมจะชี้แจงทุกประเด็นต่อสื่อมวลชนในวันที่ 11 ธันวาคม" บิ๊กอ๊อดกล่าว


ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการกีฬากล่าวในตอนท้ายว่า เวลานี้ยังไม่พูดถึง "กระทรวงกีฬาและกิจการเยาวชน" เพราะจะไปเกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการการศึกษาที่ดูแลเรื่องเยาวชน ทำให้เบื้องต้นจะแยกกระทรวงกีฬาออกมาเป็นเอกเทศก่อน จากนั้นจะไปจับกับภารกิจงานใดค่อยหารือในโอกาสต่อไป โดยคณะกรรมาธิการปฏิรูปการกีฬาที่มีรองประธาน 4 คน ได้แก่ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี, พล.ร.อ.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ, พล.อ.วุฒินันท์ ลีลายุทธ และนายดิเรก ถึงฝั่ง จะดำเนินการเรื่องแยกกระทรวงตามขั้นตอนนับจากนี้เป็นต้นไป โดยคาดว่าในปี 2558 หรือ 2559 จะได้เห็นกระทรวงกีฬาแยกเป็นเอกเทศแน่นอน

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 08 ธันวาคม พ.ศ. 2557