วอนรัฐทบทวนแจกเงินซื้อชุดนักเรียน

กลุ่มผู้ผลิตชุดนักเรียน มอก.บุก ศธ.วอนทบทวนนโยบายเรียนฟรี เรียนดี 15ปี อย่างมีคุณภาพ ชี้เป็นนโยบายประชานิยม ผู้ปกครองไม่ได้นำเงินที่รัฐอุดหนุนไปซื้อชุดนักเรียนให้เด็กใช้จริง

ตามที่กลุ่มผู้ผลิตชุดนักเรียนมาตรฐานและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) จำนวน 4 ราย ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อขอให้มีการทบทวนโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ นั้น นางวันรวีร์ พูลส์ศิริกุล ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตชุดนักเรียน มอก. ในฐานะประธานสภาแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเสรีนครพนม กล่าวว่า พวกตนต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้มีการทบทวนนโยบายเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะรายการค่าเครื่องแบบนักเรียนที่ระบุว่า แนวทางการจัดซื้อเครื่องแบบนักเรียน/ชุดนักเรียนรัฐจะจัดสรรเงินสดให้ผู้ ปกครองและนักเรียนดำเนินการจัดซื้อด้วยตนเองแต่ความจริงแล้วผู้ปกครองส่วน ใหญ่ไม่ได้นำเงินที่ได้ไปซื้อชุดนักเรียน อีกทั้งนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลผู้ปกครองก็ไม่รู้จะไปหาซื้อชุดนัก เรียนให้แก่ลูก หลาน ได้ที่ไหน และหากจำเป็นจะต้องซื้อชุดนักเรียนผู้ปกครองก็จะต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการ เดินทางเข้าเมืองมาซื้อชุดให้เด็กอีก จึงทำให้เกิดปรากฎการณ์ผู้ขายไม่มีที่ขายและผู้ซื้อไม่มีที่ซื้อ และเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้ปกครองขณะเดียวกันนโยบายดังกล่าวยังส่งผลให้ ผู้ประกอบการชุดนักเรียนที่มีอยู่ 45 รายทั่วประเทศขาดรายได้และมียอดขายตกลงจำนวนมาก โดยเท่าที่ทราบขณะนี้มีผู้ประกอบการชุดนักเรียนต้องปิดกิจการไปแล้ว 11 ราย ดังนั้น พวกตนจึงอยากให้ ศธ.ได้มีการทบทวนเรื่องเหล่านี้ และอยากให้ปรับนโยบายใหม่ โดยให้โรงเรียนเป็นศูนย์กลางในการจัดซื้อจัดหาชุดนักเรียนเองซึ่งจะทำให้ เป็นการลดภาระให้แก่ผู้ปกครองด้วย

“ ที่ผ่านมาพวกเราร้องเรียนเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่เคยมีความคืบหน้าเกิดขึ้น ดังนั้น พวกเราจะให้เวลา ศธ.อีก 2 สัปดาห์หากยังไม่มีคำสั่งดำเนินการเรื่องนี้ให้ พวกเราก็จะกลับมาทวงถามอีกครั้ง ซึ่งแต่เดิม สพฐ.มอบให้โรงเรียนเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างชุดนักเรียนให้แก่ผู้เรียน แต่เมื่อปี 2552 มีนโยบายเรียนฟรีเกิดขึ้น โดยแจกเงินให้ผู้ปกครองไปซื้อชุดเอง แต่ในทางปฎิบัติผู้ปกครองบางรายก็ไม่ได้นำเงินไปซื้อจริง ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ของงบประมาณ และโยนภาระให้กับผู้ปกครอง อีกทั้งอยากให้รัฐบาลทบทวนด้วยว่าโครงการนี้เป็นนโยบายประชานิยมเกินไปหรือ ไม่” นางวันรวีร์ กล่าวและว่า นอกจากนี้พวกตนยังขอให้มีการปรับราคาชุดนักเรียนจากชุดนักเรียนอนุบาล ราคา 150 บาท เป็น 250 บาท ประถมศึกษา ราคา 180 บาท เป็น 250 บาท มัธยมศึกษาตอนต้น ราคา 225 บาท เป็น 350 บาท และ มัธยมศึกษาตอนปลาย ราคา 250 บาท เป็น 400 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชุดนักเรียนที่รัฐจัดสรรให้ 2 ชุดต่อปี ในราคาก่อนประถมศึกษา 300 บาทต่อคน ประถมศึกษา 360 บาทต่อคน มัธยมศึกษาตอนต้น 450 บาทต่อคน • มัธยมศึกษาตอนปลาย 500 บาทต่อคน และ อาชีวะศึกษา 1,000 บาทต่อคน

ด
ที่มา เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา 12:00 น.