คิดดีรึยังยกเลิกเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร



 “ภาวิช”จี้ ทปอ.คิดให้ดี ยกเลิกเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร หวั่นระบบการศึกษาภาพรวมพัง ระบุขนาดมีมาตรฐานยังเปิดสอน ป.เอก กันเฟ้อ แถมมีให้เช่าชื่อคุมหลักสูตร ขณะที่เลขาธิการ กกอ.แจงเกณฑ์ที่กำหนดเป็นสากลที่ทั่วโลกปฏิบัติ วันนี้ (24 ก.พ.) น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2558 ว่า หากมีการยกเลิกประกาศดังกล่าว หลังจากนี้มหาวิทยาลัยไทยจะไม่สามารถทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในระดับนานาชาติได้ เช่น แลกเปลี่ยนนักศึกษา การทำหลักสูตรร่วม การเทียบวุฒิ การไปเรียนต่อ เป็นต้น เพราะจะไม่มีใครเชื่อถือในคุณภาพมาตรฐานของหลักสูตร อย่างไรก็ตามก่อนกำหนดเกณฑ์ต่าง ๆ ออกมานั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ได้มีการทำวิจัยและหารือกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว ไม่ใช่กำหนดอะไรตามใจ และเกณฑ์ที่กำหนดก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือวิสัยที่มหาวิทยาลัยจะทำได้ เป็นมาตรฐานขั้นต่ำ และเป็นระดับสากลที่ทั่วโลกปฏิบัติกัน เพื่อให้ได้หลักสูตรที่มีคุณภาพ “เห็นด้วยว่าขณะนี้การเรียนการสอนแบบบูรณาการข้ามศาสตร์มีความสำคัญ และมีมากขึ้น โดยดิฉันได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบแล้วว่า ต้องยืดหยุ่นเรื่องการกำหนดคุณวุฒิของอาจารย์ผู้สอนในบางสาขา ซึ่ง สกอ. พยายามแก้จุดอ่อนเหล่านี้ให้ทันสมัยและเข้ากับเหตุการณ์ เราไม่เคยนิ่งนอนใจ อะไรที่เป็นจุดอ่อนเรายอมรับและแก้ไข เรื่องใดที่ดำเนินการล่าช้า เราก็ปรับให้เร็วขึ้น” เลขาธิการ กกอ. กล่าวและว่า ส่วนการกำหนดว่าต้องมีอาจารย์กี่คนจึงจะเปิดหลักสูตรได้นั้น ยังจำเป็นต้องกำหนดไว้ เพราะมหาวิทยาลัยมีความหลากหลาย ที่ผ่านมามีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงบางแห่ง ยังเคยถูกร้องเรียนว่ามีอาจารย์ไม่มีคุณภาพ ไม่เพียงพอ ดังนั้นหาก สกอ. ไม่กำหนดไว้ ทุกมหาวิทยาลัยแม้จะมีหรือไม่มีอาจารย์ก็เปิดสอนกันหมด เมื่อเป็นเช่นนี้ระบบอุดมศึกษาก็จะพัง ด้าน ศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าวิตกมาก เพราะขนาดมีมาตรฐานยังเละขนาดนี้ จะยึดแค่ความรำคาญของมหาวิทยาลัยใหญ่มาเป็นที่ตั้งไม่ได้ มิฉะนั้นจะกระทบถึงคุณภาพการจัดการศึกษาในภาพรวม ที่ผ่านมาเป็นปัญหามากโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเล็กๆ ในต่างจังหวัดที่หลักสูตรไม่ได้มาตรฐาน มีอาจารย์ไม่พอ ที่สำคัญเวลานี้มีการเปิดสอนหลักสูตรปริญญาเอกเต็มไปหมด เปิดเอง เรียนเอง บางแห่งมีคณบดีเรียนเป็นคนแรก ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นด็อกเตอร์เกือบทั่วประเทศแล้ว และยังมีปัญหาอาจารย์รับจ้างคุมหลักสูตรอีก ยอมให้เอาชื่อไปใส่ และรับเงินค่าเช่าชื่อเป็นรายปี ทปอ. จึงต้องคิดให้มากกว่านี้.

ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559
“ภาวิช”จี้ ทปอ.คิดให้ดี ยกเลิกเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร หวั่นระบบการศึกษาภาพรวมพัง ระบุขนาดมีมาตรฐานยังเปิดสอน ป.เอก กันเฟ้อ แถมมีให้เช่าชื่อคุมหลักสูตร ขณะที่เลขาธิการ กกอ.แจงเกณฑ์ที่กำหนดเป็นสากลที่ทั่วโลกปฏิบัติ วันนี้ (24 ก.พ.) น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.) เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2558 ว่า หากมีการยกเลิกประกาศดังกล่าว หลังจากนี้มหาวิทยาลัยไทยจะไม่สามารถทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในระดับ นานาชาติได้ เช่น แลกเปลี่ยนนักศึกษา การทำหลักสูตรร่วม การเทียบวุฒิ การไปเรียนต่อ เป็นต้น เพราะจะไม่มีใครเชื่อถือในคุณภาพมาตรฐานของหลักสูตร อย่างไรก็ตามก่อนกำหนดเกณฑ์ต่าง ๆ ออกมานั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ได้มีการทำวิจัยและหารือกับผู้ เชี่ยวชาญแล้ว ไม่ใช่กำหนดอะไรตามใจ และเกณฑ์ที่กำหนดก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือวิสัยที่มหาวิทยาลัยจะทำได้ เป็นมาตรฐานขั้นต่ำ และเป็นระดับสากลที่ทั่วโลกปฏิบัติกัน เพื่อให้ได้หลักสูตรที่มีคุณภาพ “เห็นด้วยว่าขณะนี้การเรียนการสอนแบบบูรณาการข้ามศาสตร์มีความสำคัญ และมีมากขึ้น โดยดิฉันได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบแล้วว่า ต้องยืดหยุ่นเรื่องการกำหนดคุณวุฒิของอาจารย์ผู้สอนในบางสาขา ซึ่ง สกอ. พยายามแก้จุดอ่อนเหล่านี้ให้ทันสมัยและเข้ากับเหตุการณ์ เราไม่เคยนิ่งนอนใจ อะไรที่เป็นจุดอ่อนเรายอมรับและแก้ไข เรื่องใดที่ดำเนินการล่าช้า เราก็ปรับให้เร็วขึ้น” เลขาธิการ กกอ. กล่าวและว่า ส่วนการกำหนดว่าต้องมีอาจารย์กี่คนจึงจะเปิดหลักสูตรได้นั้น ยังจำเป็นต้องกำหนดไว้ เพราะมหาวิทยาลัยมีความหลากหลาย ที่ผ่านมามีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงบางแห่ง ยังเคยถูกร้องเรียนว่ามีอาจารย์ไม่มีคุณภาพ ไม่เพียงพอ ดังนั้นหาก สกอ. ไม่กำหนดไว้ ทุกมหาวิทยาลัยแม้จะมีหรือไม่มีอาจารย์ก็เปิดสอนกันหมด เมื่อเป็นเช่นนี้ระบบอุดมศึกษาก็จะพัง ด้าน ศ.ดร.ภาวิช ทองโรจน์ อดีตเลขาธิการ กกอ. กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าวิตกมาก เพราะขนาดมีมาตรฐานยังเละขนาดนี้ จะยึดแค่ความรำคาญของมหาวิทยาลัยใหญ่มาเป็นที่ตั้งไม่ได้ มิฉะนั้นจะกระทบถึงคุณภาพการจัดการศึกษาในภาพรวม ที่ผ่านมาเป็นปัญหามากโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยเล็กๆ ในต่างจังหวัดที่หลักสูตรไม่ได้มาตรฐาน มีอาจารย์ไม่พอ ที่สำคัญเวลานี้มีการเปิดสอนหลักสูตรปริญญาเอกเต็มไปหมด เปิดเอง เรียนเอง บางแห่งมีคณบดีเรียนเป็นคนแรก ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นด็อกเตอร์เกือบทั่วประเทศแล้ว และยังมีปัญหาอาจารย์รับจ้างคุมหลักสูตรอีก ยอมให้เอาชื่อไปใส่ และรับเงินค่าเช่าชื่อเป็นรายปี ทปอ. จึงต้องคิดให้มากกว่านี้. ที่มา หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.kroobannok.com/article-78136-คิดดีรึยังยกเลิกเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร.html
สำนักงานคณะกรรมการการ ศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีหนังสือ ที่ ศธ 04009/ว 813 เรื่อง การนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย โดยกำชับให้เขตพื้นที่การศึกษาในสังกัดเพิ่มความระมัดระวังเกี่ยวกับการ เรียกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องขอใช้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้จากสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาอื่น รายละเอียด ดังนี้ ดาวน์โหลดไฟล์แนบ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : http://www.kroobannok.com/article-78133-สพฐ.กำชับเขตพื้นที่ระมัดระวังใน การเรียกบรรจุจากการใช้บัญชีครูผู้ช่วยข้.html

โพสเมื่อ : 24 ก.พ. 59   อ่าน 1437 ครั้ง      คำค้นหา :