“ดาว์พงษ์” สั่งยกระดับการอ่านเด็กไทย

พัฒนา นร.ให้เข้าใจถึงเนื้อหา กศน.จับมือภาคีเครือข่ายจัดสื่อให้ชุมชน

พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยหลังประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ว่า มีรายงานข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่ามีคนไทย 1 ใน 3 ที่ยังอ่านหนังสือน้อยกว่า 30 นาทีต่อวัน ขณะที่ข้อมูลจากเวิร์ดแบงค์ระบุว่าเด็กไทย 1 ใน 3 มีผลสัมฤทธิ์ในการอ่านต่ำ ยังอ่านไม่เข้าใจเนื้อหา ซึ่งที่ผ่านมา ศธ.มีนโยบายแก้ไขปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2558 และตั้งเป้าปีการศึกษา 2559 เด็ก ป. 1 จะต้องอ่านออกเขียนได้ 100% โดยอาศัยกลไกต่างๆในการพัฒนาผู้เรียน ซึ่งพบว่า จากภาคเรียนที่ 1/2558 มีเด็กอ่านไม่ออกคิดเป็น 7.37% มาในภาคเรียนที่ 2 เด็กอ่านไม่ออกลดลงเหลือ 5.71% ช่วงเดือน พ.ย.2558 และลดลงเหลือ 4.04% ในเดือน ม.ค.2559 ถือได้ว่าลดลงชัดเจน อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าจากนี้ต้องเพิ่มระดับการพัฒนาเด็กจากอ่านออก ไปสู่การอ่านและเข้าใจในเนื้อหาที่อ่าน ซึ่งได้มอบให้ นพ.กำจร ตติยกวี ปลัด ศธ.ไปดำเนินการ และให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ขยายผลเพิ่มจำนวนประชาชนให้หันมาอ่านหนังสือมากขึ้น

นพ.กำจรกล่าวว่า เร็วๆนี้ตนจะหารือกับ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ขอให้ไปศึกษากระบวนการจัดทดสอบสมรรถนะภาษาไทยของเด็กไทยในอนาคต โดยใช้สถาบันภาษาไทยสิรินธรเป็นต้นแบบ เพื่อวางแผนสุ่มทดสอบความสามารถภาษาไทยของเด็กไทยในแต่ละช่วงชั้น รวมถึงทดสอบความเข้าใจที่เวิร์ดแบงค์ยกประเด็นมาด้วย นอกจากนี้ได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปหาสาเหตุของการที่เด็กอ่านได้แต่ไม่เข้าใจ ส่วนของ กศน.ขณะนี้กำลังทำโครงการบรรณสัญจร รับบริจาคหนังสือจากภาคประชาชนมารวบรวมยังห้องสมุดที่ กศน.ดูแลอยู่ อาทิ ห้องสมุดอัจฉริยะ ห้องสมุด กศน.ตำบล จึงได้มอบให้ กศน.เก็บข้อมูลด้วยว่ามีประชาชนเข้ามาอ่านหนังสือมากน้อยแค่ไหน รวมถึงสำรวจหนังสือยอดนิยม หนังสือน่าอ่าน หรือแนะนำโดยตั้งเป้าว่าในปี 2559 จะมีหนังสือเข้าสู่โครงการบรรณสัญจร จำนวน 10 ล้านเล่ม ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางการรับรู้ของประชาชน

นายสุรพงษ์ จำจด เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า ในปี 2559 นี้ สำนักงาน กศน.ได้ระดมองค์กรภาคีเครือข่ายจัดโครงการบรรณสัญจร อาทิ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน), บริษัท วัชรพล จำกัด เป็นต้น ร่วมขับเคลื่อนการทำงานพร้อมสนับสนุนจัดหาสื่อให้บ้านหนังสือชุมชน 18,500 แห่ง โดยจะมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงกันในวันที่ 2 เม.ย.นี้.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ