สพฐ.หาทีมกฎหมายช่วยครู กรณีสนามฟุตซอล เหตุรู้เท่าไม่ถึงการณ์

"กมล" เผย รมว.ศึกษาธิการ ห่วงครูเอี่ยวกรณีสร้างสนามฟุตซอล เหตุรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แนะ หาทีมกฎหมายช่วยครู ยัน สพฐ.ยังไม่ได้รายชื่อ 727 รายจาก ป.ป.ท.

วันนี้ (22 ต.ค.) นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นจากคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง 2 ชุดที่ได้รายงานมาแล้วว่า ส่วนใหญ่ข้อมูลที่ได้จะคล้ายกับข้อมูลที่ปรากฎในสื่อมวลชน ซึ่งใน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ ได้แนะนำให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ลงไปดูแลเรื่องนี้ ให้ใกล้ชิดมากขึ้น รวมถึงให้แจ้งเขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้องทำรายงานอย่างละเอียดเป็นราย เขตเสนอมาที่ สพฐ.ด้วย อย่างไรก็ตามนอกจากตนจะตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริง 2 ชุดลงไปตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและอุตรดิตถ์แล้ว ยังได้สั่งตั้งคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เพื่อไปดูข้อมูลให้ครบทั้ง 37 เขตพื้นที่การศึกษา ที่ได้รับงบประมาณในการสร้างสนามฟุตซอลด้วย

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ตนยังไม่ได้รับข้อมูลจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาค รัฐ(ป.ป.ท.)ในส่วนของรายชื่อ 727 รายที่จะส่งมาให้ ซึ่งเมื่อได้รับแล้วตนจะส่งเรื่องนี้ให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาในฐานะผู้ บังคับบัญชาโดยตรงดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามขั้นตอนเป็นรายเขตต่อไป แต่ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ มีความห่วงใยครูที่เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น สพฐ.จะไปตั้งทีมงานดูแลกลุ่มครูเหล่านี้ เช่น ทีมนิติกร นักวิชาการเข้าไปช่วยให้คำแนะนำ เป็นต้น มิฉะนั้นจะเหมือนว่า สพฐ.ปล่อยให้ครูจัดการเรื่องนี้กันเอง อย่างไรก็ตามหากข้อมูลจาก ป.ป.ท.แจ้งมาว่า รายชื่อ 727 ราย มีครูหรือผู้บริหารสถานศึกษาเข้าข่ายมีความผิดก็ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะ กรรมการสืบหาข้อเท็จจริงอีก เพราะสามารถตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยได้ทันที เนื่องจากป.ป.ท.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงมาขั้นหนึ่งแล้ว แต่หากมีผู้บริหารในเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งเป็นตำแหน่งระดับ 9 ร่วมอยู่ด้วย สพฐ.ก็สามารถตั้งกรรมการสอบสวนได้

ด้าน พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอยืนยันว่ากระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)ไม่ได้ละเลย แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดมาตั้งแต่ปี 2555 แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบตามระบบต่อไป ซึ่งตนมีความห่วงใยครูที่ต้องเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะเรื่องนี้เป็นผลมาจากทางการเมือง และคนที่ตกเป็นแพะรับบาปก็คือครู ที่ทำหน้าที่เป็นกรรมการตรวจรับ ทั้งที่ครูบางคนก็ไม่มีความรู้ในเรื่องของการสร้างสนามฟุตซอล อาทิ พื้นสนามควรมีความหนา หรือมีคุณสมบัติอย่างไร เป็นต้น และครูเหล่านี้ก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะทุจริต ดังนั้นก็เป็นหน้าที่ สพฐ. ที่จะต้องหาพี่เลี้ยงดูแลช่วยเหลือกลุ่มครูเหล่านี้ด้วย อย่างไรก็ตามขอให้เรื่องการสร้างสนามฟุตซอลเป็นบทเรียนของการดำเนินการด้าน งบประมาณต่าง ๆ ของ ศธ.ด้วย

ที่มา เดลินิวส์​ วันพุธ 22 ตุลาคม 2557