ตั้ง’กำจร’หน.ทีมยกเครื่อง’ผลิตครู’สางปม’วิทยฐานะ’ไม่สะท้อนการสอน

          เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ที่มีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการ ศธ. เป็นประธาน ว่า ตนได้รายงานความคืบหน้าการคัดเลือกนักเรียนเข้ารับทุนตามโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 4 ซึ่งได้มีการรับสมัครรอบที่ 2 และมีผู้มีคุณสมบัติ เข้าสอบข้อเขียนเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม จำนวน 19,764 คนใน 77 สนามสอบทั่วประเทศ แต่เข้าสอบจำนวน 15,801 คน ขาดสอบจำนวน 3,963 คน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวถือว่าไม่มาก หากเทียบกับจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ศธ. คาดหวังว่า จะมีนักเรียนสอบผ่านการคัดเลือกได้ครบตามจำนวนทุนทั้งหมดที่เหลืออีกจำนวน 1,759 ทุน แต่หากไม่ครบก็ต้องนำเข้าหารือกับคณะกรรมการบริหารโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ว่าจะต้องมีการเปิดรับสมัครอีกรอบหรือไม่ ซึ่งก็ ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหาร แต่ขณะนี้น่าจะเป็นเวลาที่เตรียมรับสมัครผู้รับทุน รุ่นที่ 5 แล้ว
          ปลัด ศธ.กล่าวต่อว่า นายจาตุรนต์ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหาร ไปดูว่าในการรับสมัครรุ่นต่อไป จะปรับหลักเกณฑ์อย่างไร ให้สามารถคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในสาขาที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ และสอดคล้องกับความสามารถและความต้องการของนักเรียนจริงๆ รวมถึงจะจัดสอบอย่างไรให้มีความยืดหยุ่น ให้มีผู้ผ่านเข้ารับทุนได้มากขึ้น ให้สามารถใช้งบประมาณของประเทศอย่างคุ้มค่า และเปิดโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ นอกจากนั้นยังให้ไปวิจัยปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการโครงการดังกล่าว เชิงลึก เพื่อวิเคราะห์และหาแนวทางแก้ปัญหาการดำเนินงานในภาพรวม ขณะเดียวกันที่ประชุมยังมีมติให้ตั้งคณะทำงานวิเคราะห์ระบบการพัฒนาและผลิตครู ทั้งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นพ.กำจร ตติยกวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เป็นประธาน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาระบบการพัฒนาและผลิตครูในภาพรวม
          ด้าน นพ.กำจรกล่าวว่า คณะทำงานชุดที่มีตนเป็นประธาน ถือเป็นคณะทำงานชุดเล็ก ซึ่งจะทำหน้าที่วิเคราะห์ถึงปัญหาของระบบการพัฒนาและผลิตครู รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ในภาพรวม ทั้งแผนการผลิตครูใหม่ รวมถึงแผนพัฒนาครูปัจจุบัน โดยต้องลงรายละเอียดวิเคราะห์เป็นเรื่องๆ ทั้งปัญหาระบบประเมินวิทยฐานะที่ไม่สะท้อนคุณภาพการสอนที่แท้จริง ทำอย่างไรให้ครูได้รับค่าตอบแทนในอัตราที่เหมาะสม การโยกย้ายอัตราครู ที่ไม่ตรงกับความต้องการของพื้นที่ การรับครูใหม่ รวมถึงปัญหาขาดแคลนครูเนื่องจากการเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าที่จะต้องมาดูว่าจำเป็นต้องมีการขยายเวลาการเกษียณอายุราชการออกไปหรือไม่ รวมถึงโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตครูด้วย      ยอมรับว่าปัจจุบัน ศธ. ตกเป็นจำเลยของสังคมในหลายเรื่อง ฉะนั้นถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งแก้ปัญหา ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ เรียบร้อยแล้ว คงต้องจัดระดมความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานผู้ผลิตครู อย่างมหาวิทยาลัยต่างๆ กลุ่มสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ คุรุสภา เป็นต้น เพื่อหาข้อสรุป ก่อนเดินหน้าตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนชุดใหญ่ต่อไป นพ.กำจรกล่าว

          ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน