ทีดีอาร์ไอ กังวลใจ

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

การปรับโครงสร้างการบริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในส่วนภูมิภาค ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อเพิ่มเอกภาพในการบริหารเป็นการกระชับสายบังคับบัญชา ด้วยเหตุผลเพื่อมุ่งแก้ปัญหาที่แต่ละหน่วยงานในพื้นที่ทำงานแบบต่างคน ต่างทำ ตามเสียงโจษจันมากมายหลายข้อกล่าวหาที่มีจริงน่ารับฟังได้

แต่ในอีกด้านหนึ่ง ที่ คุณศุภณัฏฐ์ ศศิวุฒิวัฒน์ นักวิจัยของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) แสดงความกังวลการปรับโครงสร้าง ศธ.อาจยึดหลักสั่งการมากกว่าการมีส่วนร่วมและการกระจายอำนาจ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่จะทำให้การปฏิรูปการศึกษาประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืนมากกว่าหรือไม่

โดยพิจารณาจากการจัดตั้ง "คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของศธ.ในภูมิภาค" ประกอบไปด้วยรมว. ศธ. ,รมช.ศธ.และเลขาธิการในศธ. 5 แท่ง และตั้ง "คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด" (กศจ.) และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ทำหน้าที่วางแผนการศึกษาจังหวัด ดูแลกำกับสถานศึกษาทุกสังกัด

หากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น ทำงานมีประสิทธิภาพ การบริหารการศึกษาของประเทศก็น่าจะมีทิศทางมากขึ้น มองปัญหาได้กว้างขึ้นตลอดการประสานงานระหว่างหน่วยงานจะแก้ปัญหาได้หลายประการ

ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่หลุดออกจากระบบในช่วงรอยต่อ ของ ป.6 และ ม.1 และ ม.3 ขึ้น ม.4 ก็จะมีการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานที่ดูแลประถมฯ มัธยมฯ และอาชีวะ ติดตามดูแลการจัดสรรครูไม่มีเกินมีขาด การย้ายครูระหว่างโรงเรียน ส่งผลต่อการบริหารแบบมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น

ข้อเป็นห่วงของ คุณศุภณัฏฐ์ ศศิวุฒิวัฒน์ นักวิจัยฯ คือ การปรับโครงสร้างครั้งนี้อาจลดการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจของผู้มีส่วนได้เสียลงและเป็นไปเน้นการสั่งการจากส่วนกลางมากขึ้น

ด้วยเหตุผล เนื่องจากกรรมการในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด 20-22 คน มาจากหน่วยงานราชการ 13 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 1-3 คน มีตัวแทนภาคเอกชนและประชาสังคมเพียง 4 คน และมีตัวแทนครูเพียง 2 คนซึ่งไม่น่าจะสามารถสะท้อนความเห็นที่ครอบคลุมการศึกษาได้

และบนความเสี่ยงที่ว่า ผู้ได้รับการแต่งตั้งอาจไม่ใช่ตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนและครู การทำงานอาจไม่ตอบโจทย์พื้นที่ จึงเสี่ยงต่อการทำงานตามโครงการของส่วนกลางมากกว่า

ความกังวลใจของทีดีอาร์ไอครั้งนี้น่าจะมีส่วนเติมเต็มให้การขับเคลื่อนสมบูรณ์ขึ้น 

ที่มาข่าวสดออนไลน์ วันที่ 8 เมษายน 2559