เรียนภาษาผ่านการแสดง




      

เรียนภาษาผ่านการแสดง


          นางระพีพร คิ้วทวีวิวัฒน์ อายุ 49 ปี หรือที่เด็กนักเรียนรู้จักเรียกติดปากว่า คุณครูอ้อย โรงเรียนวัดสัมมาราม ตำบลเขาขลุง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัด ราชบุรี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 ได้นำความรู้ ความสามารถเข้ามาช่วยเด็ก ๆ ชนบทที่อยู่ห่างไกลให้มีความใส่ใจกิจกรรมการเรียน การสอน โดยได้นำเทคนิควิธีการต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ทำให้เด็กมีความเข้าใจ และทำให้เด็กได้รับรางวัลเหรียญทองด้านประกวด ร้องเพลงของสำนักงานเขตพื้นที่ถึง 10 เหรียญทอง ส่วนปี 2556 สามารถพัฒนา ขึ้นมาเป็น 13 เหรียญทอง จนทางคุรุสภาได้ประกาศผลการคัดเลือกได้รับเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อรับรางวัลคุรุสภา ดีเด่นประจำปี 2556 สร้างความภาคภูมิใจให้แก่โรงเรียนและชุมชนอย่างยิ่ง
          ครูอ้อย เล่าว่า เข้ารับราชการครั้งแรกที่จังหวัดจันทบุรีจากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่จังหวัดราชบุรีบ้านเกิด อดีตเป็นครูเอกชนอยู่ที่โรงเรียนดรุณาราชบุรีนาน 23 ปี ได้สั่งสมประสบการณ์และผลงานมากมาย จากการที่ผู้บริหารได้ให้โอกาสทำงานที่รักและปัจจุบันเป็นครูสอนภาษาไทย ก็ได้ประยุกต์การสอนภาษาไทย ด้วยการใช้เพลงเข้ามาร่วม จะดูเด็กที่สอนโดยไม่ได้เลือกว่าเด็กเหล่านั้นจะเก่งหรือไม่เก่งแต่ดูศักยภาพว่าใจเด็กต้องรัก ก่อนว่ามีอารมณ์สุนทรีย์ในใจเขา หากมีตรงนี้จะสามารถพัฒนาได้ถึงแม้เด็กคนนั้นจะอ่านหนังสือออกหรือไม่ออก
          การสอนภาษาไทยต้องดูแววเด็กไปด้วย ประกอบกับส่วนตัวครูจะชอบศิลปะการแสดงอยู่แล้วจึงเลือกเด็กมาฝึกฝนชอบให้เด็กแสดงความสามารถ จะได้ค้นหาพบตัวเองว่ามีศักยภาพด้านไหนโชคดีที่จากเด็กไม่เป็นอะไรมาเลยในวันหนึ่งเขาสามารถประสบความสำเร็จได้ทำผลงานและสร้างชื่อเสียงด้วยตัวเขาและสถานศึกษามากมาย ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ ได้รางวัลสูงสุดเป็นถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ตลอดเวลาที่เป็นครูมาเกือบ 30 ปีทำให้ได้รับรางวัลเป็นผลต่อเนื่องเชิงประจักษ์ได้เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือว่าเป็นสุดยอดของความเป็นครูแล้ว ในชีวิตไม่คิดว่าจะมีวันนี้ พอประกาศผลรางวัลคุรุสภา รู้สึกเหมือนฝัน ครูอ้อย เล่าอย่างมีความสุข
          สำหรับเทคนิควิธีการสอนนั้น ครูอ้อย บอกว่า ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่ออสเตรเลีย จึงนำมาปรับใช้ โดยการจัดโต๊ะกลุ่มในห้อง เรียนจะคละเด็ก เก่ง อ่อน จับกลุ่มกันเป็น การให้เพื่อนช่วยเพื่อนคอยเตือนและช่วยเหลือกัน ให้เลือกกันเองตามความพอใจของเพื่อน ผลัดกันเป็นผู้นำ
          และผู้ตาม รู้จักแสดงความคิดเห็น ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น ให้มีความเชื่อมั่นเป็นของตัวเอง เช่น ให้ออก มาพูดหน้าชั้นเรียน ฝึกให้กล้าแสดงออก ซึ่งจากการที่ได้มาสอนอยู่ที่โรงเรียนวัดสัมมารามพบว่าเด็กอยากทำในสิ่งที่ยังไม่เคยเห็น พอได้ทำและประสบความสำเร็จ รู้สึกว่าผู้ปกครองจะตื่นตัวและให้การสนับสนุนเด็กอย่างดีมากจนได้รับเหรียญทองระดับเขตมาแล้ว ทั้งนี้ถ้าเด็กทำดีต้องส่งเสริมและยกย่องแจกเกียรติบัตร เชิดชูหน้าแถวหลังเคารพธงชาติ เพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีกับเด็กคนอื่น ๆ ต่อไป.

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 30 ม.ค. 2557 (กรอบบ่าย)--


โพสเมื่อ : 29 ม.ค. 57   อ่าน 1752 ครั้ง      คำค้นหา :