รมว.ศธ.จี้ 5 องค์กรหลักร่วมปฏิรูป มุ่ง’เรียนรู้-ผลสัมฤทธิ์’เด็กไทยสูงขึ้น



          เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ ผู้บริหารระดับสูง 5 องค์กรหลักของ ศธ.ว่า ได้รับฟังรายงานความคืบหน้า ข้อเสนอแนะ และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานเรื่องต่างๆ ของสำนักงานปลัด ศธ.และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) โดยพบว่าแต่ละหน่วยงานนำนโยบายของรัฐบาลในด้านการศึกษามาจำแนกแยกแยะ และพัฒนาเป็นแผนยุทธศาสตร์ได้อย่างดี และมีความชัดเจนในหลายเรื่อง เพื่อให้นโยบายเดินไปสู่เป้าหมายได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งในส่วนของการนำไปปฏิบัตินั้น คงต้องติดตามกันต่อไปว่าแต่ละ ส่วนจะทำอย่างไร โดยอยากให้ประสาน และเชื่อมโยงกันทุกหน่วยงานใน 5 องค์กรหลัก โดยเฉพาะในเรื่องการปฏิรูปหลักสูตรการเรียนการสอน หรือการเรียนรู้ การพัฒนาครู การทดสอบการวัดผล และการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ที่จะต้องนำไปอิงกับการจัดอันดับในการประเมินขององค์กรระหว่างประเทศ อีกทั้ง จะต้องพัฒนาระบบประเมินของไทยให้ดี และมีมาตรฐานมากขึ้นด้วย
          เรื่องที่สำคัญมาก และต้องทำโดยเร็ว คือการปฏิรูปการเรียนรู้ การเรียนการสอน ที่ต้องคู่ขนานไปกับการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่กว่าจะเริ่มใช้อย่างทั่วถึงก็น่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 ปี ฉะนั้น ระหว่างนี้จะทำอย่างไรให้การเรียนการสอนมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้น และตอนนี้มีวิทยาการใหม่ๆ เกิดขึ้นในยุคอินเตอร์เน็ต การเรียนในยุคใหม่ต้องหาวิธีให้เด็กคิดเป็น และอธิบายได้ ไม่ใช่ให้เด็กค้นคำตอบทางอินเตอร์เน็ตแล้วนำมาตัดแปะส่งรูปเท่านั้น อีกทั้ง ควรต้องปรับการเรียนการสอนใหม่ๆ ในหลายๆ วิชา นายจาตุรนต์กล่าว
          นายจาตุรนต์กล่าวว่า ส่วนการจัดทดสอบโดยสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ต้องดูว่ามาตรฐาน และความเชื่อมโยงกับหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่น การออกข้อสอบนอกหลักสูตรหรือไม่ จนทำให้ผลคะแนนต่ำ หรือกรณีที่ผลคะแนนสูง อาจเป็นเพราะเด็กไปเรียนนอกตำรา เป็นต้น สำหรับเรื่องคอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ตนั้น เรื่องใหญ่คือเนื้อหาสาระที่ป้อนเข้าไปในแท็บเล็ต เพราะไม่ใช่เอาเนื้อหาอะไรใส่เข้าไปก็ได้

          ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน


โพสเมื่อ : 04 ก.ค. 56   อ่าน 1474 ครั้ง      คำค้นหา :