สอศ. รับลูก คสช. สร้างความปรองดองในชาติ

สอศ. รับลูก คสช. สร้างความปรองดองในชาติ

          สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้จัดให้มีการประชุมประธานกรรมการอาชีวศึกษาภาค ประธานกรรมการอาชีวศึกษาจังหวัด และผู้อำนวยการสถานศึกษาที่ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสถาบัoการอาชีวศึกษา เพื่อรับทราบนโยบายการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยมี พ.อ.ธเนศ กาลพฤกษ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก  ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ส่วนงานการรักษาความสงบเรียบร้อย (สรส.) สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สรธ.คสช.) ชี้แจงนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มอบนโยบายการดำเนินงานตามนโยบายของ คสช. ณ วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง กรุงเทพฯ
          พ.อ.ธเนศ กาลพฤกษ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน ส่วนงานการรักษาความสงบเรียบร้อย (สรส.) สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (สรธ.คสช.) กล่าวว่า แผนโรดแมป ระยะที่ 1 ของ คสช. ต้องการดำเนินการในเรื่องปรองดองสมานฉันท์  ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานในเรื่องนี้อย่างมาก เนื่องจากมีนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา อยู่ในสังกัดจำนวนกว่า 4 - 5 แสนคน จึงมีศักยภาพที่จะดำเนินงานเรื่องความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อทำให้เกิดความรักสามัคคี กลมเกลียวกันของคนในชาติ เพื่อก้าวไปสู่แผนโรดแมประยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไป ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนมีใจเดียวกัน คือ อยากให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป
          ดร..ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ตามนโยบายการดำเนินการของแผนโรดแมป  ระยะที่ 1 ของ คสช. ในช่วงระยะ 2 - 3 เดือนนี้ ในภาพกว้าง สอศ.จะสนับสนุนการทำงานของศูนย์การปรองดองสมานฉันท์ ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ดูแลอยู่ และในระดับวิทยาลัย ต้องการสร้างความรักสามัคคีในกลุ่มวิทยาลัย กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ไม่ให้ก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยจับตาอย่างใกล้ชิดในวิทยาลัยที่มีเหตุรุนแรง และทำกิจกรรมส่งเสริมความยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้สถานศึกษาจัดทำแผนการดำเนินงานเสนอมายัง สอศ. ว่าจะสร้างความปรองดองในระยะเร่งด่วนนี้อย่างไร ทั้งนี้ สอศ. ได้เสนอของบประมาณดำเนินงานโครงการอาชีวะอาสาพัฒนา เพื่อนำนักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาทุกสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ออกให้บริการสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ที่สุดในจังหวัด 2 - 3 หลัง ซึ่งต้องรอ คสช. พิจารณาในเรื่องนี้
          นายประดิษฐ์ ระสิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ภายหลังจากวันนี้ให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านไปดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวนโยบายของ คสช. และ สอศ. ให้นักเรียน นักศึกษา และบุคลากร ของสถานศึกษาในจังหวัดของตนได้รับรู้ รับทราบ และปฏิบัติ รวมทั้งให้ทุกสถานศึกษาทำแผนการดำเนินงานการจัดกิจกรรมเรื่องความปรองดองสมานฉันท์ส่งมายัง สอศ. โดยเป็นกิจกรรมเชิงรุกและดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ลักษณะกิจกรรมรวมหรือกิจกรรมสอดแทรกให้นักเรียน นักศึกษา ได้ปฏิบัติ
          นายวณิชย์ อ่วมศรี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2557 สถานศึกษาหลายแห่งจัดกิจกรรมการรับน้องใหม่ ซึ่ง สอศ. มีความเป็นห่วงเรื่องความรุนแรงในการรับน้องใหม่ ดังนั้นจึงขอกำชับให้จัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีแนวปฏิบัติภายใต้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงแห่งชาติ (คสช.) ดังนี้
          1. การปฏิบัติราชการให้เป็นไปตามปกติ โดยให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และแนวปฏิบัติจากส่วนราชการต้นสังกัด
          2. การจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามแนวทางของประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมุ่งเน้นให้เกิดความสมานฉันท์
          3. ให้ส่งเสริมดูแลข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรในสังกัด และนักเรียน นักศึกษา ให้มีความเข้าใจในการปฏิบัติงานในสถานการณ์ภายใต้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
          4. ให้มีการแต่งตั้งเวรยาม หรือจัดระบบรักษาความปลอดภัยของบุคคล สถานที่ราชการ และทรัพย์สินอย่างเคร่งครัด
          5. ย้ำเตือนให้ครู บุคลากร และนักเรียน นักศึกษา ให้ตระหนักในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการนำเสนอหรือเผยแพร่ข้อความทางสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ หรือทางสื่อสารออนไลน์ว่า ต้องไม่มีลักษณะปลุกระดม ยั่วยุ ชักชวน สร้างความรุนแรง ข้อความอันเป็นเท็จ หรือต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
          6. การชุมนุมทางการเมืองให้กำกับดูแลข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรในสังกัด และนักเรียน นักศึกษา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง หรือต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ,ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ชุมนุมหรือสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการชุมนุมทางการเมือง หากมีความจำเป็นต้องจัดประชุมสัมมนา สามารถจัดได้ตามความเหมาะสม โดยให้ระมัดระวังไม่ให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง ทั้งนี้ให้มีการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และป้องกันบุคคลภายนอกที่จะเข้ามาแทรกแซงการประชุม
          7. ให้ข้าราชการ บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรในสังกัด และนักเรียน นักศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง ห้ามออกนอกเคหะสถาน
          8. ให้หน่วยงานและบุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาให้ความร่วมมือและสนับสนุนภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในทุกระดับ
          9. ให้ผู้บังคับบัญชาสอดส่อง ดูแล เอาใจใส่การปฏิบัติงานของข้าราชการและบุคลากรในสังกัด ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นไปตามระเบียบของทางราชการอย่างเคร่งครัด
          10. ให้สอดส่องดูแล ติดตามเหตุการณ์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ กรณีมีแนวโน้มจะมีเหตุความไม่สงบให้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทันที

ที่มา: http://www.naewna.com