หวั่นวิ่งเต้นบอร์ดคุรุสภา ปิดลับรายชื่อกรรมการสรรหา อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯชุดใหม่

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.58 นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานคณะกรรมการคุรุสภา เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีผู้ร้องเรียนว่าการสรรหาผู้แทน คุรุสภาเพื่อเข้าไปเป็นอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) 169 เขตพื้นที่ประถมศึกษา สรุปผลการสอบสวนโดยระบุว่า การคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาดังกล่าวขัดต่อหลักความเป็นกลางและไม่เป็นไปตามประ มวลกฏหมายวิธีพิจารณาความปกครองมาตรา 16 นั้น ทางบอร์ดคุรุสภาได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง คัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ประถมศึกษาชุดใหม่ทันที

ขณะเดียวกันได้เลือกผู้แทนคุรุสภาที่จะเข้าไปเป็นอนุกรรมการวิสามัญของ ก.ค.ศ.เพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้แทนคุรุสภาที่จะเข้าไปเป็น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ประถมศึกษาแล้วเช่นกัน โดยคณะกรรมการคุรุสภาได้มีการประชุมลับเพื่อสรรหาบุคคลที่จะเข้าไปเป็น อนุกรรมการทั้ง 2 คณะ ซึ่งครั้งนี้ได้มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนครั้ง ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะเป็นผู้ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียและไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับการเสนอรายชื่อ ทั้งยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่น่าเชื่อถือ

"ในเบื้องต้นบอร์ดคุรุสภาขอปิดรายชื่อของอนุกรรมการทั้ง 2 คณะไว้ก่อน เพื่อไม่ให้ใครไปวิ่งเต้น หรือล็อบบี้ได้ โดยในส่วนของอนุกรรมการกลั่นกรอง คัดเลือกผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ประถมศึกษาชุดใหม่นี้ ได้รับมอบหมายให้พิจารณากลั่นกรองรายชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ก่อนเสนอให้บอร์ดคุรุสภาพิจารณาในวันที่ 19 ก.พ. หากไม่มีข้อผิดพลาดอะไรขึ้นมาอีกหลังประชุมบอร์ดคุรุสภาครั้งนี้ก็น่าจะ สามารถเสนอรายชื่อให้ อนุกรรมการวิสามัญของ ก.ค.ศ.พิจารณาต่อไปได้ และเสนอให้บอร์ด ก.ค.ศ.พิจารณาแต่งตั้งได้ภายในเดือน มี.ค." ประธานคณะกรรมการคุรุสภา กล่าวและว่า

นอกจากนี้ คณะกรรมการคุรุสภายังได้ตั้งคณะกรรมการว่าด้วยประมวลจริยธรรมของกรรมการและ เจ้าหน้าที่คุรุสภาเพื่อสอบสวนกรรมการคุรุสภาทั้ง 4 คนที่ถูกระบุว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใสในครั้งนี้แล้ว โดยให้เวลาสอบสวนภายใน 30 วัน ก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคุรุสภาต่อไป แต่ตนคงไม่สามารถบอกได้ว่าการสอบสวนระบุว่ามีความผิดแล้วโทษจะระดับไหน เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครถูกตั้งกรรมการสอบจริยธรรมมาก่อน และเรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบอร์ดคุรุสภาว่าจะพิจารณาอย่างไร

ที่มา สยามรัฐ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558