ปราบทุจริตศธ.ไร้น้ำยา

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

หากจะไล่เรียงวันเวลานับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 2558 ถึง 30 ส.ค. 2559 (17 เดือน) กับความพยายามนำตัวกลุ่ม ผู้บริหารในคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร ทางการศึกษา (สกสค.) ที่มีพฤติกรรมทำความผิดสร้างความอัปยศ เสื่อมเสียต่อวงการศึกษากับหลายคดีความ มารับโทษก็ยังไม่เห็น

เวลาผ่านไปหากนับวันกันแล้ว กว่า 410 วัน น่าจะมีความ คืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมกันมากกว่าจะปล่อยให้อึมครึม เหมือน รอให้เวลามันกลืนกินโดยมีสถานการณ์ใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อเบี่ยงเบน ความสนใจมากกว่า

ทั้งๆ ที่ขบวนการทุจริตชัดแจ้งทั้งเอกสาร หลักฐาน บุคคลหน่วยงาน และสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องยังลอยหน้าลอยตา สบายดีถ้วนหน้า

จำได้ว่า เมื่อ บิ๊กหนุ่ย พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ มานั่ง เก้าอี้รมว.ศธ.ไม่กี่วัน ลั่นจะเร่งรัดสานต่อให้ติดตามทุกๆ เรื่อง ขององค์การค้าสกสค.เพื่อสร้างหลักธรรมาภิบาลในองค์กร คือ โปร่งใส่ คุ้มค่า มีความรับผิดชอบ และต้องมีคุณธรรม

หน่วยงานภาคปราบปรามทุจริตไม่ว่าจะเป็น ดีเอสไอ, ปปง., สตง., ปปช. ตลอดคณะกรรมการฯ สอบสวน และเหล่าผู้บริหารที่ลงไปดูแล เด้งรับกันแบบรายวัน มาวันนี้กลับเงียบกริบ

วันนี้ยังคงเป็นแค่เงาที่ทาบผ่าน ไม่ว่าจะเป็นการโกงกรมธรรม์จากครูผู้กู้เงิน กว่า 150,000 ราย ที่ถูกบังคับให้ทำประกันตามโครงการประกันชีวิตพ่วงการกู้เงิน แต่กลับไม่ได้รับกรมธรรม์ สูญไปกว่า 5 พันล้าน

ส่วนปัญหาสกสค.นำเงินโครงการ ช.พ.ค. นำเงิน 2,500 ล้านบาท ไปซื้อตั๋วสัญญาเพื่อลงทุนในโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กับบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ เมื่อกลางเดือน ส.ค.2559 แค่พักงานเจ้าหน้าที่ของ สกสค. 5 ราย

แต่กรณีชุดนักเรียนค้างสต๊อกกว่า 5 แสนชุด ซึ่งอยู่ในคลังสินค้าขององค์การค้าของ สกสค.ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 และตรวจพบหนังสือองค์การค้าฯโอนเข้าคลังสินค้าล่องหนอีกกว่า 5.3 แสนเล่ม และชุดนักเรียนค้างสต๊อกจำนวนกว่า 5 แสนชุด ซึ่งอยู่ในคลังสินค้าขององค์การค้าของ สกสค.ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 ก็เงียบ

ทั้งที่ตัวการบงการใหญ่ทั้งหลายที่มีตัวตนเป็นๆ พบเจอได้ ไม่ยาก ยังลอยหน้าท้าทายศธ.ทุกวัน

ขอบคุณที่มาจากข่าวสดออนไลน์ วันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2559