หนุนครูมีอาชีพหลังเกษียณชำระหนี้
เมื่อวันที่
12 พ.ย. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า
ตนได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารธนาคารออมสินในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
(สกสค.) เพื่อหารือความคืบหน้าถึงข้อมูลปัญหาต่างๆ
ที่ผ่านมาว่ามีเรื่องใดที่ได้รับการแก้ไขไปแล้วบ้าง
หรือเรื่องใดที่ยังเป็นอุปสรรคและยังไม่ได้รับการแก้ไข
พร้อมกับร่วมกันเสนอความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อข้าราชการครูในอนาคต
เพื่อวางแผนบริหารจัดการร่วมกัน โดยประเด็นหลักๆ
ส่วนใหญ่ที่ได้หารือร่วมกันคือ การแก้ไขปัญหาหนี้สินครู
เนื่องจากพบว่าธนาคารออมสินมีศูนย์ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเพื่อความยั่งยืน
ซึ่งศูนย์แห่งนี้มีหน้าที่วิเคราะห์และศึกษาช่วยเหลือให้แก่ประชาชนในรูปแบบต่างๆ รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า
จากการหารือถึงประเด็นการแก้ปัญหาหนี้ครู
ตนเกิดไอเดียว่าครูที่เป็นลูกค้าของธนาคารออมสินและได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว
แต่ยังต้องชำระหนี้จากการกู้ยืมอยู่นั้น
อยากจะให้ครูได้เข้าร่วมพัฒนาตนเองกับศูนย์แห่งนี้
เพื่อให้ครูได้พัฒนาตนเองให้มีอาชีพ
สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเองหลังเกษียณอายุราชการ
โดยตนอยากให้ครูมีอาชีพหลังเกษียณ เพื่อเป็นการยืนยันกับธนาคารว่า
ครูมีศักยภาพในการชำระหนี้
ซึ่งจะทำให้ธนาคารออมสินมีความมั่นใจในการวางแผนบริหารจัดการช่วยเหลือหนี้สินครูได้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน
ธนาคารออมสินยังได้สะท้อนปัญหาหนี้ครูให้รับทราบถึงการที่ครูไปกู้ยืมเงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูด้วย
ซึ่งการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินของสหกรณ์นั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ครูไม่สามารถชำระหนี้ได้
และเมื่อรวมหนี้ของครูที่ไปกู้ยืมจากแหล่งเงินกู้ในระบบแล้วเป็นจำนวนเงินมหาศาล
ดังนั้น ตนจะนำข้อมูลหนี้ครูจากแหล่งเงินกู้ต่างๆ มาวางแผนแก้ปัญหาต่อไป ส่วนกรณีที่ธนาคารออมสินดำเนินการหักเงินจากบัญชีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง
ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ช.พ.ค.) โครงการ 2-7 จำนวน 0.5-1% เป็นเงินกว่า 10,000 ล้านบาท
ในกรณีที่หักเงินไปไม่เป็นธรรมนั้น
ตนขอดูรายละเอียดก่อนว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ
|
โพสเมื่อ :
15 พ.ย. 62
อ่าน 1383 ครั้ง คำค้นหา :
|
|