ชี้เรื่องยากใช้ ม.44 เพิ่มศึกษาธิการภาค

“ดาว์พงษ์” ปรับแผนใช้วิธีเกลี่ยอัตรา ปลื้มเกณฑ์ใหม่ได้ ผอ.ร.ร.เก่ง

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี อดีต รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการติดตามการจัดสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปี 2559 ในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าการคัดเลือกผู้อำนวยการโรงเรียนตามหลักเกณฑ์ใหม่นี้จะทำให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้คนที่มีความรู้ความสามารถและตั้งใจเข้ามาทำงานจริง ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา รวมทั้งตัวผู้อำนวยการโรงเรียนเองก็ยอมรับหลักเกณฑ์นี้และพร้อมที่จะปรับตัว เพราะตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก หากครูไม่ดี แต่ถ้าโรงเรียนนั้นมีผู้อำนวยการโรงเรียนที่เก่งก็สามารถจัดการได้ แต่ถ้าผู้อำนวยการโรงเรียนที่ไม่เก่งก็จะมีปัญหา ส่วนหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกรองผู้อำนวยการสถานศึกษานั้น ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อยู่ระหว่างการยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการ แต่อย่างน้อยที่สุดคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จะต้องเข้ามามีส่วนในการพิจารณาความเหมาะสมภายในจังหวัดของตนเองได้ระดับหนึ่ง

พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าในการเสนอขอใช้อำนาจตามมาตรา 44 ขอเพิ่มอัตราศึกษาธิการภาค (ศธภ.) อีก 18 ตำแหน่งนั้น ยอมรับว่าค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตาม หาก คสช.ไม่อนุมัติอัตรากำลังตามที่เสนอ ตนก็จะใช้การเกลี่ยอัตราตำแหน่งที่ปรึกษาระดับทรงคุณวุฒิ หรือซี 10 ของทุกส่วนราชการมาใช้เป็นฐานในการกำหนด ตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ศธ.เพิ่ม 6 ตำแหน่ง รวมกับผู้ตรวจราชการ ศธ.ที่มีอยู่ 12 ตำแหน่ง เป็น 18 ตำแหน่ง เพื่อมอบหมายผู้ตรวจราชการ ศธ.ให้ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค และการยุบรวมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 5 องค์กร ให้เหลือ อ.ก.พ.ศธ. เพียงคณะเดียวนั้น ทั้ง 2 เรื่องนั้นตนได้เสนอไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ขณะที่การจัดตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นั้น ตนตีกลับให้ สพฐ.ไปคิดให้รอบคอบว่า บุคลากรที่จะมาทำงานจะมาจากส่วนใด โดยเฉพาะนิติกรที่อยู่กับ ก.ค.ศ.จะแบ่งบางส่วนมาอยู่กับ อ.ก.ค.ศ.สพฐ.หรือไม่ ซึ่งหากจำเป็นก็ต้องแบ่งมา.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ