ทิพยประกันภัยชี้แจงช.พ.ค.



ข้อมูลจากคอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 23 มิถุนายน 2558 ครูบ้านนนอกขออนุญาตนำมาเสนอต่อคุณครูครับ


ทิพยประกันภัยชี้แจงช.พ.ค.


เรียน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ข่าวสด


จากกรณีสมาชิกกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนสมาชิกครู (ช.พ.ค.) ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี ปปง. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ตรวจสอบโครงการปล่อยกู้ของธนาคารออมสิน และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ที่รับประกันสินเชื่อกลุ่มครูที่กู้เงินจากโครงการดังกล่าวนั้น


บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงถึงกรณี การที่บริษัทเข้าไปรับทำประกันกลุ่มครูตามโครงการเงินกู้ ช.พ.ค.ตั้งแต่ 5 ปีแล้ว โดยใช้ชื่อ "กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุสุขภาพสินเชื่อปลอดภัย" ว่า ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย (คปภ.) อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยประกันผู้กู้เงินวงเงินตั้งแต่ 600,000 บาทถึง 3 ล้านบาท คิดเบี้ยประกันเท่ากันทุกกลุ่มอายุ ทุกเพศ ทุกวัย ที่ 620 บาท ต่อวงเงินความคุ้มครอง 100,000 บาท ซึ่ง ต่ำกว่าราคาตลาด 15 เปอร์เซ็นต์


สำหรับสาเหตุที่ผู้กู้เงินต้องมีประกันนั้น แต่เดิมการขอกู้เงินของธนาคารต้องมีการรวมกลุ่มย่อยเพื่อค้ำประกันซึ่งกัน และกัน ซึ่งปรากฏว่าหากมีผู้กู้รายใดเสียชีวิตผู้ค้ำประกันไม่ต้องการรับภาระ หนี้สินระหว่างกันในกลุ่มย่อย จึงต้องมีระบบประกันภัยเข้ามารองรับ โดยมีวัตถุประสงค์เมื่อผู้กู้เสียชีวิตจะได้ไม่ทิ้งภาระไว้ให้ผู้ค้ำประกัน และทายาท การทำประกันจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้กู้ในการที่จะทำให้ได้รับอนุมัติวง เงินกู้ที่สูงขึ้นได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดีการทำประกันสินเชื่อเป็นไปตามความสมัครใจของผู้กู้และเป็นไปตาม เงื่อนไขการกู้เงิน ซึ่งระบุไว้ในแบบคำขอกู้จากธนาคาร โดยผู้กู้สามารถเลือกที่จะทำประกันหรือไม่ทำประกันก็ได้


กรณีจะยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย สามารถทำได้เช่นกัน แต่เนื่องจากกรมธรรม์เป็นการประกันภัยเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อที่ผู้เอา ประกันเป็นผู้กู้เงินโดยระบุให้ธนาคารออมสินเป็นผู้รับผลประโยชน์ตาม กรมธรรม์เป็นลำดับแรก เพื่อวัตถุประสงค์ลดภาระของทายาทของผู้กู้และผู้ค้ำประกัน การยกเลิกอาจทำให้บุคคลเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อนในภายหลังและเงื่อนไขการ กู้อาจเปลี่ยนแปลงไป


กรมธรรม์ของบริษัทมีข้อดีและจุดเด่น ต่างจากบริษัทประกันชีวิตทั่วไปคือ 1. บริษัทจะรับประกันทุกราย 2.ไม่ต้องตรวจสุขภาพ 3.เบี้ยประกันคงที่ ไม่ปรับเพิ่มขึ้นตามอายุ 4.ทุนประกันคงที่ตลอดอายุสัญญา แม้ภาระหนี้ลดลง 5.เบี้ยประกันไม่แยกตามเพศ 6.จ่ายสินไหม 100% กรณีโคม่า และเสียชีวิต และ 7.คุ้มครองถึงอายุ 74 ปี ขณะที่ประกันชีวิตรับอายุไม่เกิน 60 ปีเท่านั้น และบริษัทได้ให้ความคุ้มครองการเสียชีวิตของผู้ทำประกันกับบริษัท กรณีเกิดจากอุบัติเหตุและเกิดจากสุขภาพ หรือเสียชีวิตจาก 4 โรคร้าย คือ โรคหลอดเลือดสมอง โรคภาวะโคม่า โรคภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว และโรคภาวะสมองตายระบบประสาทล้มเหลว หากผู้กู้เสียชีวิตทางบริษัทจะเป็นผู้ชำระหนี้ที่ผู้กู้ยังค้างชำระกับ ธนาคารออมสินทั้งหมด หากมีเงินเหลือทางธนาคารออมสินจะส่งคืนให้ทายาท ไม่เป็นภาระให้กับทายาทต่อไป และทำให้ธนาคารไม่มีหนี้เสีย


ส่วนกรณีที่มีข้อซักถามว่าทำไมกรมธรรม์ของผู้กู้ไม่ได้รับนั้น เนื่องจากเป็นประกันกลุ่ม เราจึงออกกรมธรรม์ 2 ฉบับ ให้ธนาคารออมสินในฐานะเจ้าหนี้เก็บไว้ 1 ฉบับ ให้สำนักงาน คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) 1 ฉบับ ในฐานะที่ดูแล ช.พ.ค. ส่วน ผู้กู้จะออกเป็นใบสรุปเงื่อนไขความคุ้มครองให้ ซึ่งได้แจ้งว่าหากอยากได้กรมธรรม์ฉบับจริงให้แจ้งบริษัทได้ แต่กรณีการประกันกลุ่มปกติก็จะไม่ออกกรมธรรม์จริงให้ลูกค้าอยู่แล้ว


นอกจากนี้กรณีการเก็บเบี้ยครั้งเดียวล่วงหน้า เรื่องนี้สามารถทำได้ตามจำนวนปีที่ขอสินเชื่อ โดยบริษัทประกันชีวิตสามารถเก็บเบี้ยประกันสินเชื่อล่วงหน้าครั้งเดียวได้ สูงสุด 30 ปี แต่ในกรณีนี้ทางบริษัทได้รับการอนุมัติให้เก็บเบี้ยได้สูงสุดครั้งเดียว 9 ปี หากชำระหนี้ครบก่อน 9 ปี สามารถขอเบี้ยคืนได้ในส่วนที่ชำระไว้เกิน หรือหากชำระหนี้ยังไม่หมดภายใน 9 ปี สามารถต่ออายุได้ แต่ผู้กู้อายุต้องไม่เกิน 74 ปี


นับตั้งแต่บริษัททำประกันดังกล่าว 5 ปี มีสมาชิก ช.พ.ค.ที่ทำประกันภัยเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 7,000 ราย ซึ่งถือว่าเสียชีวิตจำนวนมากเพราะกลุ่มครูที่ทำประกันจะอยู่ในช่วงอายุ 40-60 ปี โดยบริษัทได้จ่ายสินไหมทดแทนออกไปแล้วประมาณ 6,500 ล้านบาท จากเบี้ยที่รับมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเงินที่เหลืออีก 3,500 ล้านบาท ต้องเก็บไว้เพื่อเตรียมชำระค่าสินไหมตามกรมธรรม์ ถือว่าโครงการนี้ไม่มีกำไรจากการรับประกันแต่จะได้ในส่วนของการนำเงินก้อน นี้ไปลงทุน


ถึงแม้โครงการนี้จะมีครูเสียชีวิตเป็นอัตราค่อนข้างสูง แต่เนื่องจากเป็นโครงการของภาครัฐ ทิพยประกันภัยซึ่งเป็นบริษัทที่มีภาครัฐเป็นผู้ถือหุ้นและดำเนินธุรกิจด้วย คุณธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล มาตลอด 64 ปี ยินดีที่จะสนองนโยบายของภาครัฐ รวมถึงโครงการอื่นๆ ด้วย


นายสมพร สืบถวิลกุล
กรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 23 มิถุนายน 2558


โพสเมื่อ : 23 มิ.ย. 58   อ่าน 1506 ครั้ง      คำค้นหา :