![]() |
ไม่ควรโทษครู เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ดังนั้น การทำกิจกรรมหรือโครงงานสะเต็มจึงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี อีกต่อไป
อยากให้มองไปถึงผลคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ใน 88 สถาบันอุดมศึกษา ด้วยระบบกลางการรับนิสิต นักศึกษา หรือแอดมิชชั่น ประจำปีการศึกษา 2559 ที่มีผู้สมัครเข้าร่วมการคัดเลือก 754 คณะ/สาขาวิชา รวม 105,046 คน จากจำนวนรับทั้งสิ้น 156,216 คน มีตัวเลขที่น่าสนใจมิใช่น้อย
พิจารณากันให้ดีจะพบว่ามีนักเรียนผ่านเกณฑ์คะแนนคัดเลือกและมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกายเพียง 85,834 คน คิดเป็นร้อยละ 55 เท่านั้น ซึ่งยังไม่มีใครวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่แท้จริงนั้นเกิดจากอะไร
จากตัวนักเรียนเองที่สมองไม่ฉลาดพอ หรือครูผู้สอนไม่เก่งพอ หรือว่าเกิดจากตำราเรียนของ ศธ.และเอกชน รวมถึงตำราเรียนของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)
คงปฏิเสธไม่ได้ถึงผลคะแนนการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) โดยเฉพาะในวิชาคณิต และวิทย์ ที่นักเรียนทั่วประเทศโดยเฉลี่ยสอบตก ได้คะแนนไม่ถึง 50 คะแนน ทุกปี
จึงเป็นที่มาของประเด็นที่ สสวท.และ ศธ.กำลังเน้นครูนำ สะเต็มศึกษาเข้าไปใช้อย่างสุดโต่ง ซึ่งต้องถามว่าปัจจุบันครูที่สอนเด็กตามโรงเรียนต่างๆ จะปรับตัวทันหรือไม่ ขณะที่ผลการสอบคะแนนโอเน็ตวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ก็ยังได้คะแนนต่ำไม่ถึงครึ่งทุกปีเช่นนี้
หากครูยังไม่พร้อมการเรียนการสอนก็ยังคงดำเนินไปภายใต้ปัญหาที่สะสมและถูกซุกไว้ด้วยความกลัว ผลจะตกไปที่เด็ก และไม่พ้นครูผู้สอนในแต่ละวิชาจะต้องจัดการศึกษาไปตามสถานการณ์ที่เผชิญ
ปัญหาต่างๆ เหล่านี้หากเกิดขึ้นไม่ควรจะโทษครู และคงต้องย้อนดูนโยบายรัฐที่ไม่ได้สร้างเกณฑ์ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง ต้องทำอย่างไรกับกระบวนการเดิมๆ ที่เปลี่ยนไป
ที่มาข่าวสดออนไลน์ วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ปีที่ 26 ฉบับที่ 9329 |
โพสเมื่อ : 13 มิ.ย. 59 อ่าน 1481 ครั้ง คำค้นหา : |