"ประเมินคุณภาพ"เกาไม่ถูกที่
นักวิชาการค้านข้อเสนอให้ สมศ.พักยาว 3 ปี ระบบหยุดชะงัก  .....
นักวิชาการชี้พักการประเมินคุณภาพภายนอกการศึกษา 3
ปีนั้นแก้ไม่ถูกจุด โดยวัดจากคุณภาพของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลก
สะท้อนให้เห็นว่ายังอ่อนด้อยกว่าประเทศอื่น
ดังนั้นหากไม่มีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องโอกาสที่ระบบการศึกษาไทยจะ
พัฒนาจะต้องหยุดชะงักลง
นายจำรูญ ณ ระนอง นักวิชาการอิสระ
กล่าวถึงกรณีข้อเสนอให้สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
(สมศ.) หยุดการประเมิน 3 ปี เพื่อปรับปรุงวิธีการประเมินให้เหมาะสม ว่า
หากมีการหยุดหรือชะลอการประเมินออกไป
ยิ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพการศึกษาของไทยให้สาหัสขึ้นกว่าทุกวันนี้และอ่อน
ด้อยกว่าประเทศอื่นทั้งในระดับอาเซียนและระดับโลก
เห็นได้จากผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกจากประเทศอังกฤษ ของ QS World
University Ranking ในปี 2557 มหาวิทยาลัยไทยติดระดับนานาชาติ 500
อันดับแรก เพียงแค่ 2 แห่งเท่านั้น และในระดับอาเซียน
พบว่าไทยอยู่ในอันดับสุดท้ายของการจัดอันดับ
ซึ่งเป็นวิกฤติของชาติที่น่าเป็นห่วงและต้องรีบแก้ไขเร่งด่วนแต่ตอนนี้เรา
กำลังหลงทาง และแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน
"ทั่วโลกยอมรับว่าคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษาจะเกิดได้
เมื่อสถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายใน มีการควบคุมด้วยตนเองและต้นสังกัด
ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ปกครอง ชุมชน
สังคมและรัฐบาล สำหรับการตรวจสอบจากภายนอกเพื่อยืนยันสภาพที่เป็นจริง
แล้วชี้แนะให้นำผลประเมินไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพ
ทั้งยังเป็นการกระตุ้นสถานศึกษาไม่ให้เกิดความเฉื่อยชา
หรือชะล่าใจในเรื่องคุณภาพอีกด้วย ดังนั้น การประเมินคุณภาพภายนอกโดย สมศ.
จึงเป็นสิ่งปลุกเร้าให้สถานศึกษาและผู้เกี่ยวข้องต้องปรับเปลี่ยนวิถี
ปฏิบัติภารกิจให้มีการประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็งและต่อเนื่อง
จะส่งผลให้การศึกษาได้รับการพัฒนาอย่างแท้จริงฉะนั้นการที่มีข้อเสนอให้ยุบ
หรือระงับการปฏิบัติหน้าที่ของ สมศ.นั้นเป็นการแก้ปัญหาแบบหลงทาง
หรือพูดง่ายๆว่าเกาไม่ถูกที่คัน
ซึ่งการแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้สถานศึกษาได้
มีการประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็ง และต่อเนื่อง"
นายจำรูญ กล่าวและว่า อีกทั้งการให้ สมศ.
ปรับการประเมินเป็นแบบสุ่มตรวจประเมินสถานศึกษานั้นก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่า
แต่ละสถานศึกษาที่ไม่ได้รับการประเมิน จะมีคุณภาพอย่างไร
มีจุดอ่อนใดที่ต้องพัฒนา และจะต้องพัฒนาอย่างไร อย่างไรก็ตาม
การที่กล่าวอ้างกันว่าการประเมินภายนอกเป็นภาระให้ครู/อาจารย์ ต้องทำเอกสาร
แท้จริงแล้วเป็นการเข้าใจผิดเพราะสถานศึกษาต้องจัดเอกสารรับประเมินอยู่แล้ว
และใช้เวลาประเมินเพียง 3 วันในทุก 5 ปี
ทั้งนี้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจ
ทำให้เกิดวัฒนธรรมการทำประกันคุณภาพภายในอย่างต่อเนื่อง
ที่มา สยามรัฐ วันที่ 2 มกราคม 2558 |
โพสเมื่อ :
05 ม.ค. 58
อ่าน 1225 ครั้ง คำค้นหา :
|
|