ดาว์พงษ์ จี้สอศ.ทำฐานข้อมูลกำลังคนขาดแคลน



ขีดเส้นต.ค.นี้ต้องเห็นก่อนวางแผนยุทธศาสตร์เร่งด่วน-ระยะยาว/ชูความเป็นเลิศแต่ละวิทยาลัย ภาคเอกชนขอร่วมปรับปรุงหลักสูตร

ที่วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 ก.ย.58 พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อ พัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคน อาชีวศึกษา(อ.กรอ.อศ.) โดยมีพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการ กอศ. ผู้บริหารสถาบันอาชีวศึกษา และภาคเอกชนเข้าร่วม ว่าได้ขอให้ สอศ.ไปสำรวจตัวเลขความขาดแคลน ในแต่ละสาขาวิชาชีพอีกครั้ง เพราะปัจจุบันฐานข้อมูลความขาดแคลนในแต่ละสาขาของอาชีวศึกษายังไม่นิ่งและ ไม่ชัดเจน ซึ่งฐานข้อมูลเหล่านี้ต้องนำมาวางแผนการผลิต และที่ผ่านมาสอศ.ก็ผลิตตามขีดความสามารถแต่ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้ จริง

"ผมขอให้คณะกรรมการใน กรอ.อศ.ไปประสานภาคเอกชน ขอฐานข้อมูลตัวเลขที่ขาดแคลนมาให้ได้ภายในกลางเดือน ต.ค.นี้ เพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณา เนื่องจากจากข้อมูลเหล่านี้จะมีผลต่อการเสนอของบประมาณและการวางแผน ยุทธศาสตร์การดำเนินการทั้งระยะเร่งด่วนและระยะยาว และภายในสิ้นปี 58 จะต้องเห็นภาพว่าจากนี้จนถึงเดือน ก.ย.59 จะผลิตกำลังคนในสาขาใดบ้าง รวมถึงจะต้องมีแผนระยะยาวเพื่อส่งต่อให้รัฐบาลใหม่ว่า อีก 4 ปีจะต้องเร่งผลิตกำลังคนในสาขาใด โดยทั้งหมดจะต้องสอดคล้องกับความต้องการของประเทศ และสถานประกอบการ"

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ส่วนการจัดตั้งสมาพันธ์เทคนิคและอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมแห่งภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ หรือ สมาพันธ์ SEA-TVET นั้น ตนเห็นว่ามีประโยชน์เพราะเป็นความร่วมมือของอาเซียน ซึ่งตรงกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งต้องใช้เวทีนี้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทยและประเทศอาเซียน ดังนั้น ต้องกลับมาดูด้วยว่าเราจะต้องผลิตกำลังคนให้เข้มแข็งสู้กับประเทศอื่นได้ ด้วย ซึ่งเรื่องนี้จึงอยากให้อาชีวศึกษาไปจัดทำข้อมูลที่ชัดเจนกลับมาให้ดูอีก ครั้ง

พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ตนยังมีแนวคิดว่าทำอย่างไรจึงจะให้วิทยาลัยอาชีวศึกษา ดึงความโดดเด่นของตัวเองออกมาเพื่อชูความเป็นเลิศ และให้กระจายในทุกภูมิภาคเพื่อให้เด็กได้เลือก

ด้านนายถาวร ชลัษเฐียร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานอนุกรรมการกรอ.อศ. กลุ่มอาชีพยานยนต์และชิ้นส่วน กล่าวว่า ขณะนี้การผลิตช่างเทคนิคยังไม่ตรงกับภาคการผลิต ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมก็พยายามบอกให้ผลิตให้พอเพียง ส่วนครูก็ขอให้ปรับปรุงวิธีการเรียนการสอน และที่พบปัญหามากก็คือเรื่องหลักสูตรที่ครูจะจัดหลักสูตรตามความคิดของ อาจารย์ ซึ่งไม่ค่อยตรงกับความต้องการของภาคเอกชน ซึ่งเรื่องนี้ภาคเอกชนก็ต้องเข้าไปร่วมปรับปรุงแก้ไขด้วย 

 

ที่มา สยามรัฐ วันที่ 17 กันยายน 2558


โพสเมื่อ : 18 ก.ย. 58   อ่าน 1548 ครั้ง      คำค้นหา :