ป.ป.ส.เตือนประชาชนนั่งรถตู้โดยสาร-ระวังเจอผู้ไม่หวังดีซุกยาเสพติดกระเป๋าเดินทาง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 ธันวาคม ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายณรงค์ รัตนานุกูล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ เจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบก ลงพื้นที่ปฏิบัติการปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 200 นาย ตรวจหาสารเสพติด ในปัสสาวะของพนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะในพื้นที่ 4 จุด เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2559 พร้อมทั้งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ “เดินทางปลอดภัยไร้ยาเสพติด” ให้กับผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ด้วยการไม่รับฝากของจากคนแปลกหน้า

นายณรงค์ เปิดเผยว่า มาตรการนี้เป็น 1 ในแผนปฏิบัติการเดินทางปลอดภัยไร้ยาเสพติด ซึ่งเป็นนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในช่วงปี 2559 ขณะเดียวกันได้ตั้งจุดตรวจเพื่อตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะของพนักงานขับรถตู้ โดยสารสาธารณะในพื้นที่ 4 จุด โดยมีเป้าหมายรถตู้ จำนวน 650 คัน แบ่งเป็น 1.บริเวณเกาะพญาไท 2.บริเวณใต้ทางด่วนทางลงถนนพหลโยธิน 3.บริเวณใต้ทางด่วนทางขึ้นดินแดง และ 4. บริเวณวิคตอร์รี่พ้อยท์ ในระยะหลังเริ่มพบว่ามีประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ที่พยายามใช้วิธีการและช่วงเวลาดังกล่าวในการหลบเลี่ยงการปฏิบัติงานของเจ้า หน้าที่ ขณะเดียวกันทางสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจหาสารเสพติด พนักงานขับรถโดยสารสาธารณะสถานีขนส่งตามจังหวัดด้วย

นายณรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. มีข้อพึงระวัง 4 ข้อ เพื่อให้การเดินทางปลอดภัยไร้ยาเสพติด ที่ต้องการแจ้งเตือนผู้ที่เดินทาง คือ

1.เวลาเดินทาง อย่ารับฝากของจากผู้อื่น โดยไม่ตรวจสอบให้ดี เพราะคุณอาจต้องกลายเป็นผู้ต้องหาขนยาเสพติดโดยไม่รู้ตัว
2.ระวังกระเป๋า/ห่อสัมภาระ ไม่ควรคลาดสายตา เพราะอาจมีคนไม่หวังดีมาซุกยาเสพติดในกระเป๋าคุณ
3.หากคุณทำหน้าที่ขับรถ ควรพักผ่อนให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องใช้ยาเสพติดหรือสารกระตุ้นต่างๆ เพราะคุณอาจเป็นต้นเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุ
4.ถึงที่หมายแล้ว ฉลองปีใหม่ โดยไม่ใช้ยาเสพติด จะทำให้ชีวิตพบแต่สิ่งดีงาม

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจหาสารเสพติด สำหรับผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วงและยอมรับการเสพ ก็จะเข้ารับการสมัครใจในการบำบัด ส่วนผู้ที่มีปัสสาวะสีม่วง และไม่ยอมรับก็ต้องรอผลและบังคับการบำบัด

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 21 ธันวาคม 2558