"สรรพากร"เล็งลดภาษีบุคคลธรรมดาจาก 35% เหลือ 30%

นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า เตรียมเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะให้มีผลบังคับใช้สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นในปี 2560 และยื่นแบบเสียภาษีในปี 2561 เพื่อให้ผู้เสียภาษีมีภาระลดลง ซึ่งแนวทางการดำเนินการ โดยอาจจะมีทั้งการลดอัตราภาษี การเพิ่มหักค่าใช้จ่ายเหมารวมที่ปัจจุบันได้ 6 หมื่นบาท การพิจารณาค่าหักลดหย่อนในส่วนของบุตรจะไม่จำกัดจำนวนคน และการหักลดหย่อนอื่้นๆ แต่ยังไม่สามารถชี้แจงในรายละเอียดได้

ปัจจุบันมีบุคคลธรรมดายื่นแบบชำระภาษี 10 ล้านคน แต่มีผู้เสียภาษีจริงประมาณ 6-7 ล้านราย ในจำนวนนี้มีผู้มีรายได้สุทธิเกิน 4 ล้านบาท ซึ่งต้องเสียภาษีบุคคลธรรมดาในอัตราสูงสุด 35% อยู่ 1-2% ของผู้ที่ยื่นแบบภาษีทั้งหมด ซึ่งถือว่าไม่มาก

และการปรับลดภาษีบุคคลธรรมดาในครั้งนี้ จะทำให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยการปรับภาษีบุคคลธรรมดาจะสอดคล้องกับอัตราภาษีนิติบุคคลที่เสียอยู่ 20% และเสียภาษีเงินปันผลอีก 8% รวมเป็น 28% ซึ่งหากลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดาสูงสุด 35% เหลือ 30% ก็จะมากกว่าภาษีนิติบุคคล 2% เท่านั้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามี ดังนี้

เงินได้สุทธิ 1-150,000 บาท/ปี ได้รับยกเว้นภาษี
เงินได้สุทธิ 150,001-300,000 บาท/ปี อัตราภาษี 5%
เงินได้สุทธิ 300,001-500,000 บาท/ปี อัตราภาษี 10%
เงินได้สุทธิ 500,001-750,000 บาท/ปี อัตราภาษี 15%
เงินได้สุทธิ 750,001-1,000,000 บาท/ปี อัตราภาษี 20%
เงินได้สุทธิ 1,000,001-2,000,000 บาท/ปี อัตราภาษี 25%
เงินได้สุทธิ 2,000,001-4,000,000 บาท/ปี อัตราภาษี 30%
และเงินได้สุทธิ 4,000,000 บาท/ปีขึ้นไป อัตราภาษีสูงสุด 35%

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 4 มกราคม 2559