ผู้ตรวจศธ.แนะครูปรับวิธีการสอนให่ มุ่งให้เด็กคิด-วิเคราะห์ดึงคะแนนโอเน็ตเพิ่ม



นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค 13 เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 32 จ.อุบลราชธานี สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ (สศศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า จากการตรวจผลการดำเนินงานของโรงเรียนพบว่านักเรียนทำข้อสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ปีการศึกษา 2558 วิชาภาษาไทยและวิทยาศาสตร์ ได้สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศถึงร้อยละ 7 ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จของโรงเรียน ที่ส่งเสริมให้เด็กทำคะแนนโอเน็ตได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ขณะที่โรงเรียนส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ จึงแนะนำให้ผู้บริหารโรงเรียนทำต่อเนื่องให้กลายเป็นงานปกติ และหากต้องการให้ผลสัมฤทธิ์ก้าวกระโดด จะต้องเปลี่ยนทัศนคติและวิธีการสอนของครูใหม่ โดยเน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้มากขึ้น ถ้ายึดตำราเป็นตัวตั้งจะทำให้เกิดปัญหาทั้งกระบวนการ ดังนั้นการทำให้กระบวนการเรียนการสอนประสบความสำเร็จได้ จะต้องดูวัตถุประสงค์ของหลักสูตร ผลลัพธ์ที่จะเกิดกับผู้เรียน โดยสิ่งสำคัญที่สุดประการแรกคือการให้ได้องค์ความรู้ในทุกคาบเรียน บูรณาการการอ่านและการคิดวิเคราะห์ควบคู่กันตลอดเวลา เช่น วิชาภาษาไทยต้องมีอัตนัยอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ ต้องวัดคุณลักษณะของผู้เรียน 8 ประการ วัดค่านิยม 12 ประการ รวมทั้งกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพราะการจัดการศึกษาที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่ค่อยสอนให้เด็กคิด แต่สอนให้เด็กทำตาม

ด้านนายพันคำ ศรีพรม ผู้อำนวยการราชประชานุเคราะห์ 32 กล่าวว่า โรงเรียนได้ลงนามความร่วมมือระหว่างครูกับผู้บริหาร ครูกับนักเรียน และครูกับผู้ปกครอง โดยตั้งเป้ายกระดับผลสัมฤทธิ์เพิ่มขึ้นทุกวิชาไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 รวมทั้งจัดทำปฏิทินกระบวนการนิเทศ ติดตามการสอนของครูและผู้บริหารอย่างต่อเนื่อง ทำให้สัมฤทธิ์ของเด็กดีขึ้นอย่งต่อเนื่อง

 

ที่มาข่าวสดออนไลน์ วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559


โพสเมื่อ : 26 พ.ค. 59   อ่าน 1431 ครั้ง      คำค้นหา :