สอบครูผู้ช่วยยังไม่จบ

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]

แม้ว่ากระทรวงศึกษาธิการจะได้ลงโทษทางวินัย อดีตเลขาธิการ กพฐ. และ อดีต ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ สพฐ. ด้วยการปลดออกจากราชการฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของทางราชการ อันเป็นเหตุให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรงไปแล้วก็ตามในคดีส่อทุจริต ปี 2556

แต่ก็ยังถือว่ายังเป็นการจบที่ยังไม่สมบูรณ์

เนื่องจากยังมีหลักฐานจากดีเอสไอ ที่เคยทำหนังสือถึง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ เพื่อยืนยันว่ามีผู้เข้าสอบส่อเข้าข่ายทุจริต 344 คน พร้อมเสนอให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ปลดคนเหล่านี้ออกจากการบรรจุเข้ารับราชการครูค้ำคออยู่ จึงเป็นคำถามที่เป็นการบ้านให้ศธ.และ สพฐ.จะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไรด้วยหรือไม่

เป็นเรื่องเป็นราวมาตั้งแต่ช่วงต้นปี พ.ศ.2556 สมัยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ดำรงตำแหน่งทั้งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.

เนื่องจากมีหลักฐานเด็ดที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและดีเอสไอ พบความชัดเจนในช่วงดังกล่าว จากข้อสอบข้อที่ 34 ของวิชาความรอบรู้ (S101) เชื่อได้ว่า มีข้อสอบรั่วไหลพร้อมการเฉลยออกมาถึงมือผู้เข้าสอบจำนวนมาก

โดย ดร.ชอบ ลีซอ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานทดสอบทางการศึกษา สพฐ.นำคะแนนของผู้เข้าสอบทั้ง 17,000 คน มาลงกราฟวิเคราะห์ทางสถิติและได้พบสิ่งผิดสังเกตในกลุ่มถึงประมาณ 500 คน ที่ทำคะแนนสอบได้ร้อยละ 90 ขึ้นไปอยู่ที่ 4 เทียบไอคิวได้ระดับ "ไอน์สไตน์"

แต่อัจฉริยะในกลุ่มนี้จำนวนถึง 344 คน กลับตอบผิดเพราะไปเลือกคำตอบเดิม ซึ่งกรรมการออกข้อสอบได้เปลี่ยนคำถามใหม่และเฉลยกันใหม่ เนื่องจากพบความผิดพลาดและแก้ไขข้อ สอบนั้นๆ เสียก่อน

จึงสรุปว่าข้อสอบรั่วแน่นอน และถือเป็นหลักฐานชัดเจนที่ทำให้ดีเอสไอเสนอตัวทำหนังสือถึง อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาต่างๆ เพื่อยืนยันว่ามีผู้เข้าสอบส่อเข้าข่ายทุจริต 344 คน พร้อมเสนอให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ ปลดคนเหล่านี้ออกจากการบรรจุเข้ารับราชการครู

ณ วันนี้ ยังไม่เห็นบทสรุปใดๆ ที่ชัดเจนออกมาจาก ก.ค.ศ.ว่า จะปล่อยให้ครูระดับอัจฉริยะไอคิวเทียบเท่าไอน์สไตน์ ที่ซื้อเฉลยข้อสอบยังยืนสอนนักเรียนอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ ต่อไปหรือไม่อย่างไร 

ที่มาข่าวสดออนไลน์ วันที่ 2 พฤษภาคม 2559