มธบ.เปิดป.โท’ก.ม.แพทย์’แห่งแรกในอาเซียน

มธบ.เปิดป.โท'ก.ม.แพทย์'แห่งแรกในอาเซียน

          คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มธบ.เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต หวังยกระดับนักกฎหมายให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเฉพาะด้าน พร้อมเปิดสาขาใหม่ ป.โท กฎหมายทางการแพทย์ ปีการศึกษา 2557
          ผศ.ดร.ธานี วรภัทร์ รองผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาในการสร้างนักกฎหมาย เนื่องจากบัณฑิตที่จบการศึกษาออกมามีความแตกต่างกันเพราะการจัดการเรียนการสอนในแต่ละมหาวิทยาลัยไม่เหมือนกัน ดังนั้น คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มธบ. จึงมุ่งเน้นการเรียนการสอน ที่ไม่ใช่เฉพาะจากตำราเรียน แต่สอนการศึกษาด้านกฎหมายที่ถูกต้องเรียนรู้ในทุกมิติ ควบคู่กับการมุ่งให้นักศึกษาร่วมกันคิดและวิเคราะห์หาเหตุหาผลและแนวคิดทฤษฎี นอกจากนั้นในปีการศึกษา 2557 นี้ ได้มีการเปิดวิชาใหม่ กฎหมายทางการแพทย์ ในระดับปริญญาโท เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของหลักสูตร โดยนำวิชาชีพทางการแพทย์และวิชาชีพด้านกฎหมายมาผสมกลมกลืนให้เป็นการเรียนการสอนในรูปแบบใหม่ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าของหลักสูตรนิติศาสตร์
          กฎหมายทางการแพทย์ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบวิชาชีพ อัยการ ผู้พิพากษา ทนาย รวมถึงนักกฎหมายทั่วไป เพราะในปัจจุบันคดีที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์มีให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง มีผล กระทบต่อชีวิตและมูลค่าความเสียหายจำนวนมาก ดังนั้นหากนักกฎหมายไม่เข้าใจในศาสตร์ทางการแพทย์แล้วจะมีกระบวนการคิดวิเคราะห์ที่เป็นแบบระบบ ถูกต้องและยุติธรรมได้อย่างไร ผศ.ดร.ธานี กล่าว
          ด้าน นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญสาขากฎหมายการแพทย์ มธบ.กล่าวว่า ในต่างประเทศได้มีการนำเอาศาสตร์ด้านการแพทย์และนิติศาสตร์มารวมกันเพื่อศึกษา โดยให้บุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรทางกฎหมายได้ศึกษาเพิ่มเติมแต่จะเปิดสอนเป็นหลักสูตรระยะสั้น ซึ่งในส่วนของประเทศไทยก็ต้องการนักกฎหมายที่มีความรู้ความเข้าใจในศาสตร์ด้านการแพทย์เช่นเดียวกัน การที่มธบ.ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการศึกษาทางด้านการแพทย์ของนักกฎหมาย และเปิดสอน กฎหมายทางการแพทย์ ในระดับปริญญาโทเป็นแห่งแรกของภูมิภาค ภายใต้ การเรียนการสอนที่มีความเข้มข้นทั้งตัวหลักสูตรและอาจารย์ผู้สอน จะเป็นการพัฒนาศักยภาพนักกฎหมายให้มีองค์ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางการแพทย์ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการประกอบวิชาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก