เตือนครู "ติวเลื่อนวิทยฐานะ" หวั่นเสียเงินฟรี
ศธ.เตือนครู-บุคลากรทางการศึกษา อย่าหลงเชื่อ
"ติวเลื่อนวิทยฐานะ" หลัง มรภ.แห่งหนึ่งใน กทม.เปิดอบรมเรียกเก็บเงิน
ชี้อาจเสียเงินฟรี เหตุการประเมินวัดผลจากคุณภาพเด็ก
ไม่ใช่เอกสารเหมือนที่ผ่านมาขอให้ใจเย็น รอคู่มือจาก ก.ค.ศ.
ระบุเอาผิดมหาวิทยาลัยที่ทำไม่ได้
วานนี้ (17 มิ.ย.) รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)
กล่าวถึงกรณีมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) แห่งหนึ่งใน กทม.
ได้ประกาศเปิดรับสมัครอบรมครู
เพื่อยื่นขอรับการประเมินวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ
โดยเก็บค่าอบรมคนละ 3,000 บาท หลังจากเพิ่งประกาศหลักเกณฑ์การประเมินใหม่
ว่า ตนได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
(ก.ค.ศ.) ประสานไปยัง มรภ.ดังกล่าวแล้ว
ว่าอาจเป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม
ซึ่งเท่าที่ทราบมีเพียงแห่งเดียวที่เปิดอบรมลักษณะนี้ ซึ่งทางปฏิบัติ
ศธ.คงไม่สามารถไปห้ามการจัดอบรมในลักษณะดังกล่าวได้
เพราะถือว่าเป็นการบริการทางวิชาการลักษณะหนึ่ง ซึ่งไม่ผิด
แต่กรณีนี้อาจมองไปได้ว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อที่ไม่เหมาะสม
และหลักเกณฑ์ประเมินใหม่นี้จะเน้นวัดผลที่เป็นรูปธรรม
ดูที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็กเป็นสำคัญ
ไม่ใช่ประเมินจากเอกสารเช่นที่ผ่านมา
รศ.นพ.กำจร กล่าวว่า ทั้งนี้
ขอเตือนครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เตรียมขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ใหม่
อย่าเพิ่งหลงเชื่อ เพราะอาจเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ ขณะนี้
ก.ค.ศ.อยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือเพื่อเผยแพร่ไปยังส่วนราชการและข้าราชการ
ครูและบุคลากรทางการศึกษา
เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับข้าราชการครูที่ต้องการขอรับการประเมินฯ
ได้รับทราบรายละเอียด จึงขอให้รอศึกษาคู่มือของ ก.ค.ศ.ก่อนจะดีกว่า
นอกจากนี้ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศธ. และผู้บริหาร
ศธ.เองมีก็ความห่วงและไม่อยากให้เกิดวัฒนธรรมการติว
เพื่อเข้ารับการประเมินวิทยฐานะ
หรือช่วยเหลือกันในลักษณะที่ไม่เป็นความจริง
เพราะเกณฑ์ใหม่จะเน้นที่คุณภาพของเด็ก
ไม่อยากให้ครูไปจัดทำการประเมินที่มีลักษณะหลอกลวง
และไม่ตรงตามความเป็นจริง
"ส่วนกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ
ศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษาในหลายเขต
แสวงหาผลประโยชน์ในการเรียกรับเงินเกี่ยวกับการย้ายครูและบุคลากรทางการ
ศึกษาในพื้นที่ ยอมรับว่าตรวจสอบยาก เพราะเป็นลักษณะของการสมยอมกัน ดังนั้น
การแก้ปัญหาจึงต้องปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถดำเนินการกับเขตพื้นที่ฯ ที่มีปัญหาลักษณะดังกล่าวได้ทันที
ซึ่งอาจจะต้องมีการปรับแก้กฎหมายในภายรวมทั้งหมด
เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้ครอบคลุม" ปลัด ศธ. กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน |
โพสเมื่อ :
18 มิ.ย. 58
อ่าน 1376 ครั้ง คำค้นหา :
|
|