![]() |
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการ
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ.
กล่าวถึงแนวทางการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ในงานประชุมวิชาการนานาชาติ
"การประกันคุณภาพการศึกษา" ประจำปี 2557 ซึ่ง สมศ.จัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 14
ปี สมศ.ว่า
การพัฒนาคุณภาพการศึกษาจะเกิดขึ้นจะต้องเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรมคุณภาพซึ่ง
แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมคุณภาพที่แตกต่างกันซึ่งสถานศึกษาจะต้องรู้วัฒนธรรม
ของตนเองแล้วร่วมกันสร้างวัฒนธรรมคุณภาพให้เกิดขึ้น โดยใช้กุญแจ 3 ดอก คือ จิตสำนึกคุณภาพ วิถีชีวิตคุณภาพ และการบริหารสถานศึกษาคุณภาพ
โดยจิตสำนึกคุณภาพเกิดจากศิษย์และครูรู้สำนึกในหน้าที่และระเบียบวินัย
ปฏิบัติตามกฎระเบียบและมาตรฐานที่วางไว้
ผู้บริหารเองก็ต้องมีจิตสำนึกคุณภาพ หาก
สมศ.ประเมินแล้วไม่ผ่านต้องสำรวจว่าสถานศึกษาของตนเองขาดวัฒนธรรมคุณภาพใน
เรื่องใด แล้วรีบปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เกิดคุณภาพตามเป้าหมายที่วางไว้
โดยปัจจัยที่สะท้อนจิตสำนึกคุณภาพคือ
คุณภาพของผู้เรียนที่เกิดจากการเรียนรู้ ตามเป้าหมายของหลักสูตร
การเรียนการสอน การวัดและประเมินผล
ความคาดหวังของผู้ปกครองและความต้องการของสังคม
รวมทั้งการวัดและประเมินผลที่เป็นระบบโดยข้อสอบที่ได้มาตรฐาน
และที่สำคัญต้องเป็นการประเมินเพื่อพัฒนา ศ.ดร.ชาญณรงค์กล่าวว่า จากการประเมินของ สมศ.
ที่ผ่านมามีโรงเรียนหลายแห่งที่ประสบความสำเร็จ
อย่างเช่นโรงเรียนห้วยไร่หาดทรายมูล จังหวัดอำนาจเจริญ
ซึ่งในการประเมินรอบแรกและรอบสองไม่ผ่านรับรองมาตรฐาน
ซึ่งพบว่าเกิดจากปัญหาเด็กอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้
ผู้บริหารโรงเรียนจึงหาวิธีการแก้ไข โดยนำการประกันคุณภาพภายในมาใช้ (PDCA)
เริ่มจากการคัดกรองเด็กที่มีปัญหาเรื่องการเขียน การอ่าน
แล้วบริหารจัดการครู สร้างความร่วมมือร่วมใจการสอนเสริมให้เด็กใน
วิชาที่อ่อนและการทำงานร่วมกันอย่าง ใกล้ชิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เมื่อ
สมศ.
ไปประเมินรอบสามโรงเรียนแห่งนี้สามารถยกระดับมาตรฐานขึ้นมาอยู่ในระดับ
คุณภาพดีมากได้สำเร็จ จนเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง ชุมชน
ถือเป็นแบบอย่างความสำเร็จที่เกิดขึ้น
จากจิตสำนึกของผู้บริหารโรงเรียนอย่างแท้จริง" ศ.ดร.ชาญณรงค์กล่าว "ที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาออกมาค่อนข้าง
มาก ซึ่งน่าเป็นห่วง
เนื่องจากมีการนิยามการประกันคุณภาพการศึกษาออกไปในหลากหลายมิติ
มองว่าการประกันคุณภาพการศึกษาเป็นภาระ เป็นความทุกข์
แต่หากมองอีกด้านว่าการประกันคุณภาพการศึกษาเป็นภารกิจก็จะเกิดคุณประโยชน์
กับสถานศึกษานั้นๆ อย่างมาก ดังนั้นการประกันคุณภาพต้องทำควบคู่กันทั้ง IQA
และ EQA คือ ประเมินด้วยความรู้ ความเข้าใจ ก็จะเป็นประโยชน์ต่องาน
ผมมั่นใจว่าถ้าเราทุกคนมีจิตสำนึกคุณภาพ
ร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศจนกลายเป็นวัฒนธรรมคุณภาพ
จะทำให้การศึกษาของประเทศเรามีคุณภาพทัดเทียมนานาประเทศได้ไม่ยาก"
ศ.ดร.ชาญณรงค์กล่าว ผอ.สมศ.กล่าวเพิ่มเติมว่า
ผลประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามซึ่งยังเหลือเวลาอีก 1
ปีที่ต้องประเมินให้เสร็จ พบว่าสถานศึกษาที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ
ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่ง สมศ.
ได้ทำการเปรียบเทียบผลการประเมินแต่ละรอบของสถานศึกษาทุกแห่ง คือ
กลุ่มโรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินทั้ง 3 รอบ มีจำนวน 1,755 แห่ง
และกลุ่มที่ผ่านการประเมินฯ รอบสอง แต่รอบสามไม่ผ่านการประเมิน มีจำนวนถึง
9,418 แห่ง ทั้งสองกลุ่มนี้ต้นสังกัดจะต้องให้ความสำคัญและใกล้ชิดอย่างมาก
ค้นหาสาเหตุและวางแนวทางแก้ไขเร่งด่วนที่สุด |
โพสเมื่อ : 23 ธ.ค. 57 อ่าน 1411 ครั้ง คำค้นหา : |