สจล.เผยมติ ’สภาคณบดีครุ-ศึกษา’ ผุด 5 แนวทาง-ปั้นครูผู้นำ
สจล.เผยมติ 'สภาคณบดีครุ-ศึกษา' ผุด 5 แนวทาง-ปั้นครูผู้นำ
รศ.พีระวุฒิ สุวรรณจันทร์ คณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า จากที่มีการรับนักศึกษาเกินจำนวน ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของการผลิตครู สิ่งสำคัญที่จะทำให้การวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าวนั้นหมดไป จะต้องเปลี่ยนแปลงบทบาทและหน้าที่ของการผลิตครูในชั้นเรียนให้ตรงตามเป้าประสงค์ และผลิตครูที่มีคุณภาพ ในฐานะผู้บริหารคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจนในการผลิตครู เพื่อให้ครูเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงชั้นเรียน มิฉะนั้นการปฏิรูปการศึกษาอาจไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุนี้ คณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ทั่วประเทศจึงได้จัดการประชุมเป็นประจำทุก 2 เดือน เพื่อสร้างบทบาทของวิชาชีพครูให้มีความแข็งแกร่งและยกระดับครูไทยให้มีความสามารถสูงขึ้น รศ.พีระวุฒิกล่าวว่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สจล.เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่มีการผลิตครู โดยเน้นการผลิตครูอาชีวศึกษา เพื่อให้บัณฑิตเป็นผู้ที่มีความรู้และทักษะวิชาชีพ พร้อมที่จะถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ จากความสำคัญของการผลิตครู จึงได้เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ 3/2556 เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่อาจมีผลต่อภาพลักษณ์ของการผลิตครูและวิชาชีพครู โดยมีคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์เข้าร่วมประชุมกว่า 50 ท่าน รศ.พีระวุฒิกล่าวต่อไปว่า จากการประชุม ที่ประชุมสภาคณบดีฯ มีมติใน 5 แนวทาง ดังนี้ 1.การผลิตครูให้มีจำนวนที่เหมาะสม โดยจะเริ่มวางแผนการผลิตครูในปีการศึกษา 2557 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนการผลิตในสาขาวิชาที่ขาดแคลน และลดจำนวนการผลิตในสาขาที่เกินความต้องการ 2.คัดกรองผู้เข้าเรียนครูอย่างถี่ถ้วนมากขึ้น โดยผู้สมัครเข้าเรียนครูจะต้องผ่านการสอบที่มีมาตรฐานและจัดสอบร่วมกันทั่วประเทศ อีกทั้งยังจะต้องมีประวัติการเรียนที่ดี เพื่อให้ได้รับการยอมรับในวิชาชีพเพิ่มขึ้น 3.สร้างนวัตกรรมใหม่ในการผลิตครู ด้วยการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตครูเพื่อให้ได้ครูรุ่นใหม่ที่สอนด้วยวิธีการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย 4.คณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ ต้องมีบทบาทในการชี้นำแนวคิดให้กับสังคม โดยครูรุ่นใหม่จะต้องมีความทันสมัยและเป็นผู้นำสูง สามารถเป็นผู้นำการเปลี่ยน แปลงในสังคม สร้างบรรยากาศการเรียนการสอนที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการสอนให้ผู้เรียนมีแนวคิดและเข้าใจสิ่งใหม่ได้ และ 5.สร้างบทบาทเชิงรุกผ่านสมาคมทางการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทำให้วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูงมีบทบาทและเติบโตอย่างมีความหมาย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด |
|
โพสเมื่อ :
26 มิ.ย. 56
อ่าน 1559 ครั้ง คำค้นหา :
|
| |