ต้องเปลี่ยนความคิดครูก่อน



ต้องเปลี่ยนความคิดครูก่อน

เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์


วันนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏหลายแห่งเริ่มส่อเค้าขยับขยายออกนอกระบบ ดังเคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่เมื่อสภาวะทางการเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลง หลายแห่งจึงชะงักไป และทำท่าจะไม่ปรับเปลี่ยน ด้วยเหตุที่บุคลากรในสถาบันยังชมชอบกับระบบราชการ

หลังจากที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวน ดุสิต ปรับเปลี่ยนออกนอกระบบ เป็นมหาวิทยาลัยสวนดุสิต วันนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เริ่มเดินหน้าไปสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบ ซึ่งอาจจะคงคำว่า "ราชภัฏ" หรือปรับเปลี่ยนชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยสวนสุนันทา" ก็เป็นได้

หลังจากที่ชี้แจงให้ข้อมูลกับบุคลากรในมหาวิทยาลัยไปแล้ว ภายใน 6 เดือนจากนี้ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา รองศาสตราจารย์ ดร.ฤๅเดช เกิดวิชัย บอกกับประชาคมสวนสุนันทา ว่าตั้งใจจะให้มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาออกนอกระบบภายในปีการศึกษาหน้า ทั้งยังย้ำว่า หากออกนอกระบบได้ ตัวอธิการบดีเองจะไม่ลงสมัครรับเลือกเป็นอธิการบดีในวาระจากนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการสืบทอดอำนาจดังมีผู้วิตก และหวั่นเกรง

ก่อนหน้านั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สมัยที่รองศาสตราจารย์ ดร.สุพล วุฒิเสน เป็นอธิการบดี เคยดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติไว้เรียบร้อย ถึงขนาดคิดชื่อมหาวิทยาลัยขึ้นใหม่

ส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เมื่อหลายปีก่อนมีการพูดคุยในคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยถึงเรื่องการออกนอกระบบเช่นเดียวกัน

ทุกวันนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏแต่ละแห่งต่างคิดหาจุดขายของตัวเอง ในลักษณะการเรียนการสอนหลักสูตรใหม่ หรือมีโครงการใหม่ เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พยายามเปิดช่องการเรียนการสอนเรื่องของฟุตบอลในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ด้วยเชื่อว่ากิจการฟุตบอลยังก้าวไปข้างหน้าอีกไกล ทั้งยังมีโอกาสก้าวไปถึงต่างประเทศ

ขณะที่การเรียนการสอนและจำนวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏน่าจะน้อยลงอาจ มีสาเหตุจากหลายประการ ประการหนึ่งน่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลงไปมาก ทั้งงานยังหาได้ยากกว่าเมื่อก่อน

วันก่อนว่าถึงการวิจัยของมหา วิทยาลัยราชภัฏที่ต้องปรับเปลี่ยนและบูรณาการให้เป็นไปตามยุคสมัย คือต้องวิจัยให้สอดรับกับความต้องการของผู้ตอบรับงานวิจัยนั้น โดยเฉพาะเจ้าของผลิตภัณฑ์และกิจการว่าต้องการงานวิจัยไปเพื่ออะไร

งานวิจัยที่ดีในยุคนี้ คืองานวิจัยที่สนองตอบความต้องการของผลิตภัณฑ์ และเพื่อใช้ในการตลาด ซึ่งต้องมีนวัตกรรมเพื่อการผลิต นำไปสู่รายได้หรือผลกำไร

ดังนั้น แม้ในระดับปริญญาตรี มหา วิทยาลัยราชภัฏควรเน้นการเรียนการสอนให้นักศึกษาเข้าถึงแหล่งข้อมูล และเรียนรู้เรื่องของข้อมูลเพื่อนำไปสู่งานวิจัย ไม่ใช่รู้ข้อมูลในลักษณะท่องจำ เพื่อนำไปใช้ในการสอบผ่านเท่านั้น

หากมหาวิทยาลัยราชภัฏต้องการออกนอกระบบเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และแม้แต่มหาวิทยาลัยสวนดุสิตเองต้องปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนไป สู่ความเป็นบัณฑิต คือฝึกให้นักศึกษาเรียนรู้เพื่อไปเป็นผู้ช่วยการทำงานด้านวิจัย รวมถึงจะได้มีโอกาสผลิตงานวิจัยด้วยตนเอง เพราะยุคสมัยนี้ เป็นยุคดิจิตอล การเสาะหาข้อมูลนำไปสู่งานวิจัยทำได้ไม่ยาก

เว้นแต่ครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏยังคงเป็นครูรุ่นเก่า เป็นนักการศึกษายุคเดิม ไม่ริเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่วันนี้ นับว่าเป็นคราวเคราะห์ของนักศึกษาราชภัฏยุคต่อไป
 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 24 ธันวาคม 2558


โพสเมื่อ : 24 ธ.ค. 58   อ่าน 1470 ครั้ง      คำค้นหา :