งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"



อีกเพียงชั่วข้ามคืนก็จะสิ้นปี 2565 ลาทีปี “เสือดุ” และก้าวสู่ปีพุทธศักราช 2566 ปี “กระต่ายปราดเปรียว”

ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาแวดวงการศึกษาชาติถูกพูดถึงจากคนในสังคมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเร่ง “ซ่อม–สร้าง” และยกระดับคุณภาพการศึกษาให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาหลังจากที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

3 ปี การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ทิ้งร่องรอยผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เด็กนักเรียนไม่สามารถไปเรียนหนังสือตามปกติ
ที่โรงเรียนได้ ศธ.ต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนตามความพร้อมของแต่ละแห่ง ใน 5 รูปแบบ ได้แก่ 1.ON–AIR 2.ONLINE 3.
ON-DEMAND 4.ON-HAND และ 5.ON–SITE แต่ก็ต้องยอมรับว่า 5 รูปแบบนี้ อาจทำได้ดีในบางโรงเรียน แต่ในบางโรงเรียนยังขาดความพร้อมในการดำเนินการ

ผลลัพธ์คือ สถานการณ์การเรียนการสอนของแต่ละโรงเรียนเดินไปคนละทิศละทาง เกิดความเหลื่อมล้ำในแง่ของการเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพ
 

กระทรวงศึกษา (ศธ.) ภายใต้การนำของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ และ นางกนกวรรณวิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ จึงประกาศเดินหน้า 5 นโยบายเร่งด่วนได้แก่ 1.โครงการพาน้องกลับมาเรียน 2.โครงการอาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ 3.โครงการสถานศึกษาปลอดภัย (MOE Safety Center) 4.โครงการโรงเรียนคุณภาพ และ 5.โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อพลิกสถานการณ์การศึกษาไทยที่ตกอยู่ในสภาพเครื่องสะดุด เกิดภาวะการศึกษาถดถอยจนน่าห่วง

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

ตลอดปี 2565 หรือ 1 ขวบปีที่ผ่านมา 5 นโยบายเร่งด่วนของ ศธ.ขับเคลื่อน และช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาได้จริงหรือไม่? คือคำถามของสังคม ซึ่ง “ทีมการศึกษา” ขอใช้โอกาสวันส่งท้ายปีเก่า 2565 ฉายภาพแต่ละโครงการให้เห็นกันชัดๆ

เริ่มที่ โครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” เป็นโครงการที่ถูกหยิบยกเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเด็กนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่หลุดจากระบบการศึกษาอันเกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทำ MOU ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กับ 11 หน่วยงาน พร้อมจัดทำแอปพลิเคชัน “ตามน้องกลับมาเรียน” เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งล่าสุดทุกหน่วยงานในสังกัด ศธ.สามารถตามเด็กกลับเข้าระบบการศึกษาได้เกือบ 100% ภาพรวมของโครงการฯจึงช่วยสกัดเด็กหลุดระบบการศึกษาได้ค่อนข้างดี และได้รับเสียงชื่นชมจากเครือข่ายภาคสังคมต่างๆไม่น้อย

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

ขณะที่ โครงการ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” เกิดขึ้นมา โดยมีเป้าหมายนำเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา มีฐานะยากจน และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตกหล่นจากระบบการศึกษา ให้ได้รับการศึกษาสายอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ โดยดึงสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เข้าร่วม 170 แห่ง

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

แต่น่าเสียดายที่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ที่ผ่านมาสถานศึกษาอาชีวศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 88 แห่ง รับนักเรียนเข้าเรียนรุ่นที่ 1 ไปแล้ว จำนวน 4,074 คน ยังขาดความพร้อมพอสมควร ทำให้มีเด็กสนใจสมัครเข้าเรียนค่อนข้างน้อย ทั้งที่เรียนฟรี อยู่ฟรี และมีรายได้ระหว่างเรียน แต่ที่พอจะทำให้เบาใจได้บ้างคือ ในภาคเรียนที่ 2 ได้มีการจัดงบฯ
ซ่อมแซมอาคารหอพักที่มีอยู่เดิม หรืออาคารเรียน เพื่อใช้เป็นอาคารหอพักชั่วคราวในสถานศึกษา 82 แห่งที่เหลือ และจะก่อสร้างอาคารหอพักในวิทยาลัยการอาชีพอีก 38 แห่ง เพื่อรับนักเรียนรุ่นที่ 2 พร้อมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับผู้ปกครองมากขึ้น

โครงการ “สถานศึกษาปลอดภัย” (MOE Safety Center) เกิดจากปัญหาความไม่ปลอดภัยในสถานศึกษา ทั้งเหตุความรุนแรง การละเมิด หรือรวมไปถึงความชำรุดของอาคารสถานที่ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อเกิดปัญหา จะเกิดความล่าช้าในการแก้ไขมาก ศธ.จึงสร้างช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนมายังส่วนกลาง เพื่อให้เด็กแจ้งความเดือดร้อนแบบ real time มีการเปิดตัว แอปพลิเคชัน MOE Safety Center เป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนกลาง และมี “ระบบการดูแลนักเรียนและครูด้าน Mental Health ในสถานศึกษา” ใช้ตรวจสภาพจิตใจเด็กและครู ผ่าน แพลตฟอร์ม School Health Hero เพื่อคัดกรอง ดูแลช่วยเหลือนักเรียน รวมทั้งจะมีแผนเผชิญเหตุและผู้ให้คำปรึกษาเด็ก และครูในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ
 

หากมองในแง่ของรูปแบบ และแนวทางการแก้ไขปัญหาเชิงรุก ต้องถือว่า ศธ.ออกแบบระบบได้ค่อนข้างดี แต่ในช่วงที่ผ่านมากลับยังพบปัญหาความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนหลายเคส โดยเฉพาะนักเรียนถูกกระทำอนาจารจากครูผู้ที่ได้ ชื่อว่าเป็นพ่อแม่คนที่สองของเด็กเสียเอง รวมถึงกรณีบุคคลภายนอกบุกเข้าไปทำร้ายครูและเด็กเล็กภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จึงเป็นเรื่องที่ ศธ.น่าจะต้องนำบทเรียนจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเหล่านี้มาทบทวนถึงประสิทธิภาพการดำเนินโครงการอีกครั้ง

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

SPONSORED

โครงการ “โรงเรียนคุณภาพ” เกิดจากความเหลื่อมล้ำในเรื่องคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด ศธ.ที่มีมากกว่า 30,000 โรงเรียน ซึ่งในรอบปีที่ผ่านมา แม้จะมีโรงเรียนคุณภาพหลายแห่งที่ได้เริ่มปรับรูปแบบการเรียนการสอนตามแผนที่วางไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นผลที่ชัดเจนในแง่ของคุณภาพผู้เรียน ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ที่สำคัญจะต้องได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อผลักดันโครงการอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่หลายฝ่ายกังวลคือ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว โครงการนี้จะได้รับการสานต่อ หรือถูกเก็บลงลิ้นชักในที่สุด
ปิดท้าย โครงการ “แก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา” ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงในทุกรัฐบาล สำหรับรอบปีที่ผ่านมา ศธ.วางแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครู โดยใช้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเป็นฐาน บูรณาการร่วมกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ จนนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูในรูปแบบต่างๆ ทั้งลดดอกเบี้ยเงินกู้, ควบคุมยอดหนี้, ชะลอการดำเนินการทางกฎหมาย, ตั้งสถานีแก้หนี้ทั่วประเทศ, ปรับโครงสร้างหนี้, กำหนดให้หักเงินสวัสดิการ ช.พ.ค. เพื่อเป็นหลักประกันเงินกู้ และจัดงานมหกรรมแก้ไขปัญหาหนี้สินครูครั้งใหญ่ “Unlock a Better Life” สร้างโอกาสใหม่เพื่อชีวิตครูไทยที่ดีกว่า เป็นต้น

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

แต่ต้องยอมรับความจริงว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูดังกล่าวนี้ยังมีจุดบกพร่องที่ทำให้ครูหลายๆคนไม่สามารถเข้าถึงโครงการได้อย่างที่กล่าวอ้าง จนล่าสุดต้องยกขบวนมาร้องเจ้ากระทรวงคุณครูถึงหน้า ศธ. พร้อมระบุชัดว่าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูนี้ เป็นเพียงโครงการทิพย์ที่เหมือนภาพลวงตา

“ทีมการศึกษา” มองว่าหากต้องให้คะแนนทั้ง 5 โครงการเร่งด่วนที่ ศธ.พยายามจะขับเคลื่อนนี้ มีบางโครงการที่ผลักดันให้เห็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น โครงการพาน้องกลับมาเรียน ขณะที่อีก 4 โครงการนั้น ยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจน ซึ่งคงต้องอาศัยเวลา ความจริงใจ และจริงจังในการขับเคลื่อนโครงการ ทั้งจากรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงบประมาณ และบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ที่ถูกมองว่าแต่ละโครงการได้รับการสนับสนุนแบบกะปริดกะปรอย ทำให้การดำเนินงานขาดประสิทธิภาพและความต่อเนื่อง

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

ซึ่งเราขอให้คะแนน ศธ. ในปี 2565 สามารถสอบผ่านแบบฉิวเฉียด แต่ต้องขอฝากความหวังสำหรับการทำงานในปี 2566 ในการเดินเครื่อง 4 โครงการอย่างเต็มสูบ เพื่อให้ถึงฝั่งฝัน เพราะความสำเร็จยังห่างไกลเป้าหมาย

ปี 2566 จึงเป็นบทพิสูจน์ว่าการศึกษาไทยจะ “พลิกฟื้น” หรือ “ดิ่งเหว”

งานการศึกษาชาติปี "กระต่ายปราดเปรียว" หลังวิกฤติโควิด-19 "พลิกฟื้น" หรือ "ดิ่งเหว"

ทีมการศึกษา

ที่มา : นสพ : ไทยรัฐ

 

 

 

 


โพสเมื่อ : 04 ม.ค. 66   อ่าน 454 ครั้ง      คำค้นหา :