การเรียกรับเงินเพื่อให้ได้ย้าย...ผิดทั้งวินัยและอาญา
สวัสดี
ค่ะ เพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน
วันนี้ดิฉันจะขอนำเสนอในเรื่องการพิจารณาย้ายของ
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งตามมาตรา 59
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547
กำหนดไว้สรุปได้ว่า
การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดไปดำรงตำแหน่งในหน่วยงานการ
ศึกษาอื่นภายในส่วนราชการหรือภายในเขตพื้นที่การศึกษาหรือต่างเขตพื้นที่การ
ศึกษาต้องได้รับอนุมัติจาก
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาของผู้ประสงค์ย้ายและผู้รับย้าย
และให้คณะกรรมการสถานศึกษาเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาด้วย และเมื่อ
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาพิจารณาอนุมัติแล้ว ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53
สั่งบรรจุและแต่งตั้งผู้นั้นต่อไป ทั้งนี้
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด
การพิจารณาย้ายของ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
จึงต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายที่
ก.ค.ศ.กำหนด และที่สำคัญต้องพิจารณาด้วยความสุจริต ยุติธรรม ในห้วงเวลานี้
หลายท่านอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการเรียกรับเงินเพื่อให้ได้ย้าย
ดิฉันขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า การเรียกรับเงินในการพิจารณาย้ายของ
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
ท่านอนุกรรมการที่เป็นข้าราชการอยู่จะมีความผิดทั้งวินัยและอาญา
โดยทางวินัยเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรงตามมาตรา 84 วรรคสาม และมาตรา 94
วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
พ.ศ.2547 กรณีปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ
เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้
เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
และกรณีกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
ซึ่งต้องด้วยมติคณะรัฐมนตรี แจ้งตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่
นร 0205/ว 234 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2536 สรุปได้ว่า
การนำเงินที่ทุจริตไปแล้วมาคืนหรือมีเหตุอันควรปรานีอื่นใด
ไม่เป็นเหตุลดหย่อนโทษลงเป็นโทษปลดออกจากราชการ นั่นคือ
จำต้องไล่ออกจากราชการสถานเดียว ส่วนทางอาญาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 149 และมาตรา 157 ซึ่งมิใช่ความผิดอันยอมความได้ สำหรับ
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ที่ร่วมกันกระทำผิดดังกล่าว
ทั้งท่านที่ยังเป็นข้าราชการ หรือมิได้เป็นข้าราชการแล้ว ก็อาจถูก
ก.ค.ศ.มีมติถอดถอนออกจากตำแหน่งด้วยนะคะ
ท่านที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณา
หากกระทำการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบดังกล่าว
ขอให้เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย
เพราะขณะนี้มีเพื่อนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาดำเนินการรวบรวมหลัก
ฐานข้อมูลต่างๆ ส่งให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัย และ/หรือส่ง ป.ป.ช.
พนักงานสอบสวน (ตำรวจ) ดำเนินคดีอาญากับท่านที่ประพฤติปฏิบัติโดยมิชอบ
ทั้งนี้ เพ
อให้นโยบายการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาลสัมฤทธิผลได้โดยแท้
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ดิฉันหวังว่าจะเป็นข้อเตือนในเพื่อนข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ปฏิบัติหน้าที่
อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ให้เป็นผู้คิดดี ทำดี ปฏิบัติหน้าที่โดยถูกต้อง
เป็นธรรม เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
และช่วยกันขจัดปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการให้หมดไป
แล้วพบกันใหม่วันจันทร์หน้าค่ะ
ศิริพร กิจเกื้อกูล
เลขาธิการ ก.ค.ศ. |
โพสเมื่อ :
23 ม.ค. 58
อ่าน 1432 ครั้ง คำค้นหา :
|
|