เสียงเตือนจาก สพฐ.



เสียงเตือนจาก สพฐ.

เลาะเลียบคลองผดุงฯ
ตุลย์ ณ ราชดำเนิน [email protected]


ปัญหาการขาดแคลนครูในโรงเรียนสังกัด สพฐ.เป็นเรื่องวิกฤตของการศึกษาไทยมายาวนาน กล่าวจำเพาะครูวิชาภาษาไทย เท่าที่พบปีการศึกษา 2554 ขาดถึงจำนวน 7,611 อัตรา รองมาจาก วิชาคณิตศาสตร์ ขาด 8,255 อัตรา

ล่าสุดในเมื่อเดือนเมษายน 2559 ตัวเลขจาก สพฐ.พบว่า ครูคณิตศาสตร์ขาด 8,377 คน ส่วนครูภาษาไทยขาด 8,643 คน นั่นแสดงว่าผ่านมา 6 ปี ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการตอบรับ มีแต่ทับถมซ้ำซากเพิ่มขึ้น

มีสัญญาณเตือนจาก สพฐ.ถึงข้อมูลข้าราชการครูฯ ที่จะเกษียณอายุราชการในระหว่างปีงบประมาณ 2552-2562 อีก 10 ปี จะมีรวมทั้งสิ้น 192,285 คน ในจำนวนนี้มีครูประถมศึกษา 28,721 คน ครูภาษาไทย 28,578 คน สังเกตว่า ตัวเลขใกล้เคียงกันมากๆ

แต่กระทรวงศึกษาธิการ ก็ไม่เคยสิ้นความหวังลมๆ แล้งๆ ในทุกปีว่า คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) คงจะเห็นคุณค่าและความสำคัญด้วยการคืน อัตราเกษียณอายุราชการปกติ

ระหว่างนั้น สพฐ.ได้จัดโครงการอบรมพัฒนาครูสอนไม่ตรงวุฒิร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ ทั่วประเทศ 33 แห่ง ตั้งเป้าไว้ 6,000 คน แต่มีครูสอนไม่ตรงวุฒิสนใจเข้าร่วมแค่ 4,348 คน ส่วนใหญ่จะเป็นครูที่สอนในวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ

ย้อนหลังมาดูการทำงานในภาคของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ที่เคยได้รับมอบหมายจาก รมว.ศธ.ยุคนั้น ให้ไปร่วมกับสพฐ.ไปรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลปัญหาการขาดครู เพื่อใช้วางแผนการบรรจุครูให้ได้ตามความต้องการที่แท้จริง

กำชับถึงการจะได้ข้อมูลต้องมีความชัดเจน จำนวนครูที่จะจบใหม่มีเอกอะไรบ้าง ความต้องการครูต้องการสาขาใดบ้าง และวิธีการบรรจุจะทำอย่างไร สอบอย่างไรไม่ให้มีปัญหา ดูไปถึงการโยกย้ายครูและโครงการครูคืนถิ่นที่จะต้องดูให้เชื่อมโยงกัน ทั้งหมด เพื่อวางแผนบรรจุให้ตรงความต้องการและความเป็นจริง

เมื่อให้ทำงานร่วมกัน แต่เท่าที่เห็นทุกวันนี้ดูจะเป็นข้อมูลที่ออกมาจากสพฐ.ฝ่ายเดียว จึงมีคำถามว่า ก.ค.ศ.ใส่เกียร์ว่าง ไม่ถือเป็นความสำคัญ ขอทำงานแบบไฟลนก้นจากนายคนใหม่อย่างเดียวใช่หรือไม่

 

 

ขอบคุณที่มาจากข่าวสดออนไลน์ วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559


โพสเมื่อ : 16 ส.ค. 59   อ่าน 1495 ครั้ง      คำค้นหา :