ทปอ.ปรับแกต/แพต รับนโยบายลดเวลาเรียน
ศ.ดร.ประสาท สืบค้า
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)
ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดี แห่งประเทศไทย (ทปอ.)
กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(ศธ.) หารือกับ ทปอ.กรณีที่ ศธ.มีการปรับลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
โดยให้เลิกเรียนวิชาการเวลา 14.00 น.
และให้เรียนกิจกรรมต่อจนถึงเวลาเลิกเรียนว่า
ทปอ.ต้องขอดูก่อนว่านโยบายลดเวลาเรียนของ
ศธ.จะปรับลดความเข้มข้นของเนื้อหาทางวิชาการมากน้อยแค่ไหน และ
ลดเนื้อหาตรงส่วนใดบ้าง โดยเฉพาะระดับ ม.ปลาย
ที่ส่งต่อเด็กเข้าสู่ระดับมหาวิทยาลัย เพื่อ ทปอ.จะ
ได้ไปปรับลดเนื้อหาส่วนที่เด็กไม่ได้เรียนออก
จากการทดสอบความถนัดทั่วไป(แกต) และการทดสอบทางวิชาการ/วิชาชีพ(แพต)
เพื่อให้การทดสอบสอดคล้อง กับการเรียนในห้องเรียน
ไม่ใช่ว่าออกข้อสอบในส่วนที่เด็กไม่ได้เรียน
จะทำให้เด็กต้องไปกวดวิชาเพื่อมา สอบเพิ่ม
"เรื่องนี้ต้องพูดคุยกันว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
จะลดเนื้อหาในส่วนใดไปบ้าง เร็วๆ นี้
ทปอ.จะขอเข้าพบรมว.ศึกษาธิการเพื่อรับนโยบาย และจะไปหารือในที่ประชุมทปอ.
เพื่อจะดูว่าต้องตัดเนื้อหาใดบ้างให้สอดคล้องกับการเรียนในห้องเรียน
เพราะหากข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยออกนอกเหนือ
เนื้อหาที่เรียนเด็กก็จะมุ่งไปกวดวิชา ส่วนการใช้
คะแนนโอเน็ตคงไม่ปรับเพิ่ม เพราะปัจจุบัน ทปอ.
ใช้คะแนนที่มาจากการเรียนในห้องเรียนเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกเด็กเข้า
เรียนต่อมหาวิทยาลัยในสัดส่วน ที่สูงถึง 50% แบ่งเป็นโอเน็ต 30% และคะแนน
เฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือ จีแพ็กซ์อีก 20%
ดังนั้นจึงคิดว่าคงไม่เพิ่มอีก" ศ.ดร.ประสาท กล่าว
ด้าน ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า
ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาการปฏิรูปการศึกษาไม่ประสบความสำเร็จ
เป็นเพราะคอขวดทางการศึกษาในการรับคนเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษา
ซึ่งไม่ว่าเราจะปรับหลักสูตร หรือลดเวลาเรียน
หากระดับอุดมศึกษาไม่รับลูกด้วย สิ่งที่ทำก็ไม่สำเร็จ
ดังนั้นทปอ.จะต้องหารือกับมหาวิทยาลัยอย่างจริงจัง
โดยนำข้อสอบอัตนัยมาใช้ในการสอบคัดเลือก และการหารือของ
ทปอ.ก็ไม่ควรทำแค่การขอความร่วมมือ แต่ต้องมีการลงมือปฏิบัติ
มีการติดตามประเมินผล และให้คำสัญญากับสังคมว่าจะปฏิบัติอย่างไรบ้าง
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก |
โพสเมื่อ :
14 ก.ย. 58
อ่าน 1398 ครั้ง คำค้นหา :
|
|