ตามดู "ห้องเรียนชีวิต" สร้างอนาคตให้เด็กไทย ความสำเร็จของโครงการไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน
                        
                        
                                                    
                                                
						
                        	
                            	
									    
                             
                                  
                          ตามดู ห้องเรียนชีวิต สร้างอนาคตให้เด็กไทย ความสำเร็จของโครงการไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวัน
  
          อาหารกลางวันในโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นหน้าที่ของแม่ครัวที่จะต้องซื้อหาวัตถุดิบจากตลาดมาประกอบอาหาร แต่สำหรับ โรงเรียนชุมชนบ้านโนนแดง ต.ดอนตูม อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป เพราะอาหารกลางวันของน้องๆที่นี่ ปรุงจากวัตถุดิบที่ไม่ต้องไปซื้อหาจากตลาด ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่ ปลา ผักสวนครัว ล้วนมาจากฝีมือของเกษตรกรตัวน้อยที่นอกจากการมาเรียนหนังสือในห้องเรียนปกติแล้ว พวกเขายังได้เรียน วิชาชีวิต ด้วยการลงมือเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา ปลูกผัก ไว้เป็นอาหารกลางวัน เป็นการปูพื้นฐานการเป็นเกษตรกร ผู้ผลิตอาหารตั้งแต่วัยเยาว์  โดยมีเล้าไก่ไข่บ่อปลาและแปลงผักหลังโรงเรียนเป็น ห้องเรียนชีวิต  โดยทุกเช้าก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียนคือกลุ่มนักเรียนที่ขะมักเขม้นกับการเลี้ยงไก่ เก็บไข่ ให้อาหารปลา ปลูกผัก รดน้ำ พรวนดินอย่างแข็งขันโดยมีรุ่นพี่เป็นพี่เลี้ยงคอยสอน           ที่มาของกิจกรรมห้องเรียนชีวิตเช่นนี้ เกิดขึ้นภายใต้ โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทสนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟและหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (JCC) ร่วมกันผลักดันโครงการฯให้เกิดขึ้น เพื่อให้เยาวชนไทยมีสุขภาพที่ดีจากการรับประทานไข่ไก่ที่พวกเขาลงมือเลี้ยง ด้วยตนเองเป็นอาหารกลางวัน           นายอภัยชนม์ วัชรสินธุ์ รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงเรียนที่อยู่ในโครงการ 430 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย โรงเรียนตำรวจ ตระเวนชายแดน  (ตชด.) 132 แห่งโรงเรียน ในสังกัด สพฐ.และอื่นๆ อีก 298 แห่ง ช่วยให้ เด็กไทยกว่า 80,000 คน พ้นจากภาวะทุพโภชนาการได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยให้บุคลากรทางการศึกษากว่า 4,300 คน รู้วิธีการกระบวนการเลี้ยงไก่ไข่ และพร้อมเดินหน้าขยายโครงการเพื่อให้ครบ 500 โรงเรียนภายในปี 2557 ปัจจุบันมีนักเรียน ที่ได้รับประโยชน์กว่า 27,000 คน  ในโรงเรียนพื้นที่ 35 จังหวัด ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือรวม 94 แห่ง มีไก่รวมทั้งหมด 21,500 ตัว และยังคงดำเนินการตามเป้าหมายในการขยายโครงการปีละ 5-8 โรงเรียน โดยมีงบประมาณดำเนินการโรงเรียนละ 100,000-200,000 บาท           สำหรับ ธัชชัย  สีสุวรรณ  รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มูลนิธิพัฒนาชีวิต ชนบทฯ ซีพีเอฟ และ JCC ให้ความสำคัญกับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร โดยเฉพาะ ในพื้นที่ภาคอีสาน ที่พบปัญหาทุพโภชนาการ ในเด็กเป็นจำนวนมาก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการนี้จะทำให้นักเรียนได้รับอาหารที่ดี มีคุณภาพและอุดมไปด้วยโปรตีนที่จะช่วยให้พ้นจากภาวะทุพโภชนาการเติบโตไปเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพและเป็นกำลังของชาติในอนาคต           สราวุธ ลาภสาร  หรือ น้องวุธ บอกว่า สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพราะอยากนำความรู้และประสบการณ์การ เลี้ยงไก่ไปต่อยอดสู่การประกอบอาชีพเกษตรอื่นๆในอนาคต เพราะเป็นการ เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ได้ลงมือเลี้ยงไก่ ด้วยตัวเอง นักเรียน ครู  และชุมชนก็ได้รับประทานไข่ไก่สด สะอาด ปลอดภัยจากฝีมือการเลี้ยงของเด็กๆ และดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลิตอาหารปลอดภัยให้เพื่อนๆทุกคนได้รับประทาน รวมถึงชาวชุมชนที่สามารถเลือกหาไข่ไก่ที่เราผลิตได้ไปปรุงเป็นอาหาร           ปี 2556 นี้มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการรวม 7 แห่ง ได้แก่ ร.ร.บ้านห้วยไคร้ จ.เชียงราย  ร.ร.บ้านน้ำโค้ง  ร.ร.บ้านปง จ.น่าน ร.ร.ร่มเกล้า จ.กาญจนบุรี ร.ร.บ้านโป่งไทร จ.สระบุรี ร.ร.ชุมชนบ้านโนนแดง จ.อุบลราชธานี และร.ร.บ้านหนองกองแก้ว จ.ชัยภูมิ ด้วยงบประมาณสนับสนุนจาก JCC รวม 1.4 ล้านบาท 
          บรรยายใต้ภาพ            อภัยชนม์ วัชรสินธุ์           สราวุธ ลาภสาร
  
  
  
          --ข่าวสด ฉบับวันที่ 17 ธ.ค. 2556 (กรอบบ่าย)--                         		 | 
                          
							                        
                        
                        
						
						
						
						
						
						
						
						
							
								| 
										โพสเมื่อ : 
										16 ธ.ค. 56  
										อ่าน 1822  ครั้ง        คำค้นหา : 
																																																 | 
							
							  
								|   |