ก.พ.อ.ถอนคำสั่งไล่ออก3ข้าราชการ มมส.



วันนี้ (19 ก.พ.) ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา(ก.พ.อ.) เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา โดยมาตรการเร่งด่วนจะจัดส่งชื่อมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาชัดเจนในขณะนี้ ประมาณ 2-3 แห่ง ให้ รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาใช้อำนาจบริหารจัดการอย่างเด็ดขาด ส่วนมาตรการระยะยาว ที่ประชุมมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จัดทำแนวปฏิบัติการบริหารจัดการมหาวิทยาลัยที่ดี ทั้งระบบการบริหารงานบุคคล การเงินการคลัง และการบริหารงานวิชาการ เพื่อเป็นแนวทางให้มหาวิทยาลัยนำไปดำเนินการ โดยหากมหาวิทยาลัยใดปฏิบัติตามแล้วมีการบริหารจัดการที่ดี ก็จะมีมาตรการส่งเสริมทางบวก เช่น สนับสนุนงบประมาณการวิจัย งบฯเมกะโปรเจกต์ ขณะเดียวกันจะมีมาตรการเชิงลบด้วย เช่น ชะลอการเสนอชื่ออธิการบดี นายกสภามหาวิทยาลัย และกรรมการสภามหาวิทยาลัย ขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่พิจารณารับรองหลักสูตร โดยขอให้ สกอ.เร่งออกแนวปฏิบัติดังกล่าว และเสนอต่อที่ประชุม ก.พ.อ.ครั้งต่อไป 

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับอุทธรณ์ ร้องทุกข์ และจรรยาบรรณ สกอ. เสนอเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ 3 ราย คือ นายปิยพันธ์ แสนทวีสุข รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิตและพัฒนาองค์กร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) น.ส.ใบศรี พันเทศ นักวิชาการพัสดุชำนาญการ สังกัดกองคลังและพัสดุ มมส. และนายสายชล เห็มไธสง นักวิชาการพัสดุชำนาญการ มมส. กรณีทำผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ โครงการก่อสร้างอาคารวิทยพัฒนา คณะศึกษาศาสตร์ มมส.จำนวน 88 ล้านบาท เนื่องจากพบว่ากระบวนการสอบสวนไม่เป็นไปตามข้อบังคับของมมส. ที่ประชุมจึงมอบให้ สกอ. ตั้งกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าว และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดใหม่ให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ และให้คืนสิทธิกลับเข้ารับราชการนับตั้งแต่มีคำสั่งลงโทษไล่ออก เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2557 

รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.)กล่าวว่า การเพิกถอนคำสั่งลงโทษดังกล่าว ทำให้ สกอ. ต้องไปตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงทั้ง 3 ราย รวมถึงนายศุภชัย สมัปปิโต รักษาการอธิการบดี มมส. ซึ่งถูกสอบวินัยอย่างร้ายแรงกรณีดังกล่าวด้วย โดยทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงใหม่อีกรอบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มาเป็นตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว โดยอาจจะเป็นคณะกรรมการชุดเดิม หรือชุดใหม่ก็ได้. 

 

ที่มา เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 19 กุมภาพันธ์ 2558


โพสเมื่อ : 20 ก.พ. 58   อ่าน 1408 ครั้ง      คำค้นหา :