ห่วงเด็กทำกิจกรรมกระทบเวลาเรียน สพฐ.เตรียมปรับลด-จัดระบบ-กำหนดเกณฑ์เข้าร่วม

นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิด เผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมปรับลดกิจกรรมนักเรียนลง หลังผลศึกษาพบว่าเวลาเรียนซึ่งมีอยู่ปีละ 200 วัน นักเรียนต้องไปทำกิจกรรมอื่นๆ ถึง 82 วัน จากกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ 67 กิจกรรม โดยหลักวิชาการแล้วนักเรียนไม่ควรใช้เวลาเรียนไปทำกิจกรรม อื่นเกินร้อยละ 10 หรือ 40 วัน และอาจเป็นสาเหตุที่ทำ ให้ผลการเรียนไม่สูงตามที่คาดหวัง สพฐ.จึงต้องการ ลดกิจกรรมเหล่านี้ลง

โดยกิจกรรมที่นักเรียนต้องเข้าร่วมในแต่ละปีนั้นจะแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ

1.กิจกรรมที่เกี่ยวกับนักเรียนโดยตรง หรือเกี่ยวข้องกับวิชาเรียน อาทิ กิจกรรมสร้างเสริมสุขอนามัย รณรงค์ส่งเสริมคุณธรรม เป็นต้น

2.กิจกรรมช่วยงานหน่วยงานภายนอก เช่น กิจกรรมประจำปีของจังหวัด หรือการเกณฑ์เด็กไปร่วมงานต่างๆ และ

3.กิจกรรมที่เกี่ยวกับการประเมิน ซึ่งต้องเตรียมพร้อมรับการประเมินเป็นเดือน และในช่วงเดือนที่นักเรียนสอบจะไม่ให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ทั้งสิ้น

"ปลายเดือนมี.ค.นี้ สพฐ.จะเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทั้ง 67 โครงการ มาหารือปรับลดเวลาการทำกิจกรรมให้เด็กมีเวลาเรียนเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ สพฐ.ไม่ได้จะยกเลิกกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมด แต่จะจัดระบบใหม่ เช่น หมวดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ หมวดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม เพื่อนำมาบูรณาการกิจกรรมประเภทเดียวกัน เพราะทุกวันนี้ หน่วยงานเจ้าของกิจกรรมไม่ค่อยคุยกัน เช่น กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีกิจกรรมที่หลากหลายมาก จึงควรหารือภายในหน่วยงานก่อนและนำมาบูรณาการเข้าด้วยกัน หรือกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมก็มีหลายหน่วยงาน ทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทุกหน่วยงานก็อยากนำเด็กเป็นเป้าหมาย แต่กลับส่งผลกระทบต่อเวลาเรียนของเด็ก" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ วันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558