สมศ.ชี้ 14 ปีคุณภาพการศึกษายังไม่ดีขึ้น พบสามปัญหาเรื่องตัวบุคคลากรในโรงเรียน
ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์
ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
(สมศ.) เปิดเผยว่า 14 ปีที่ผ่านมาที่ สมศ.
จัดการประเมินคุณภาพสถานศึกษาจากรอบแรกจนถึงรอบสาม
พบปัญหาและสาเหตุสำคัญของการพัฒนาคุณภาพการศึกษายังไม่ดีขึ้น
เป็นผลมาจากเรื่องการทำประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาที่ยังไม่เข้มแข็ง
และปัญหาการทำงานไม่มีการบันทึก ไม่เก็บข้อมูลเป็นระบบ
จากการวิเคราะห์พบว่ามีปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ เรื่องความไม่เข้าใจ การทำงานโดยไม่มีการบันทึก และจำนวนบุคลากรที่มีความรู้เรื่องการประกันคุณภาพน้อย และปัญหาที่คงอยู่ ทำให้ภาพความก้าวหน้าในเรื่องการประกันคุณภาพการศึกษาทั้งหมด จึงไม่ก้าวกระโดด
ศ.ดร.ชาญณรงค์ กล่าวถึงผลประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม ระหว่างปี
2544-2557 และยังคงเหลืออีก 1 ปี ที่ สมศ.
จะต้องทำการประเมินสถานศึกษาจำนวนหนึ่งจึงจะครบรอบการประเมิน พบว่า
สถานศึกษาที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่ง สมศ.
ได้ทำการเปรียบเทียบผลการประเมินแต่ละรอบของสถานศึกษาทุกแห่ง คือ
กลุ่มโรงเรียนที่ไม่ผ่านการประเมินทั้ง 3 รอบ มีจำนวน 1,755 แห่ง
และกลุ่มที่ผ่านการประเมินฯ รอบสอง แต่รอบสามไม่ผ่านการประเมิน มีจำนวนถึง
9,418 แห่ง
ทั้งสองกลุ่มนี้ต้นสังกัดจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญและใกล้ชิดอย่างมาก
ค้นหาสาเหตุและวางแนวทางแก้ไขเร่งด่วนที่สุด จากการ
วิเคราะห์สาเหตุน่าจะมาจากการโยกย้ายของผู้บริหาร หรือครู
ยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดว่าคุณภาพของสถานศึกษาผูกติดกับตัวบุคคล ไม่ใช่ระบบ
เพราะสถานศึกษาควรจะต้องสร้างคุณภาพในเชิงระบบให้เกิดขึ้น
แม้จะเปลี่ยนตัวบุคคล คุณภาพไม่ควรจะต่ำลง
ที่มา แนวหน้า วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2557 |
โพสเมื่อ :
12 ธ.ค. 57
อ่าน 1513 ครั้ง คำค้นหา :
|
|