เตือนครูอย่าคิดหาประโยชน์จากหน้าที่
เตือนครูอย่าคิดหาประโยชน์จากหน้าที่
“ณรงค์”ชี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษา
ชวนครูและบุคลากรฮึดสู้ลบคำสบประมาทร่วมพัฒนาการศึกษา
อัพผลประเมินคุณภาพนักเรียน ย้ำความโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
เตือนสังคมเฝ้ามอง อย่างแม้แต่จะคิด
วันนี้ (15ต.ค.)
ในการประชุมสัมมนาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ
ครั้งที่ 5/2557 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ
พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รัฐบาลโดย
นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการพัฒนาการศึกษาอย่างมาก
เพราะตระหนักว่าการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของสังคม
โดยเฉพาะการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพ และคุณธรรม
ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาประเทศและเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันในเวที
นานาชาติ
โดยในช่วงที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศนี้จะให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการ
ศึกษาให้เป็นไปตามแนวทางของสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านการศึกษา
ทั้งเรื่องการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาระบบผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การพัฒนาคุณภาพการศึกษา
การกระจายอำนาจการบริหารจัดการ ระบบการศึกษา
การลดความเหลื่อมล้ำและเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียม
และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนตามความต้องการของตลาดแรงงาน
เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งนี้
การดำเนินการจะต้องควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
ค่านิยมการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์การยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ
และน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักสำคัญด้วย
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ในเรื่องคุณภาพการศึกษานั้น
เมื่อดูจากผลการประเมินระดับการศึกษาของนักเรียนในปัจจุบันเรียกว่าตกต่ำ
เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในอาเซียนและในโลก
ทั้งที่รัฐบาลทุกรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาจัดงบประมาณให้สูงที่
สุด และถ้าเทียบกับรายได้ประชาชาติ(จีดีพี)ของประเทศต่าง ๆ
ทั่วโลกประเทศไทยอยู่ในอันดับ 2 ซึ่งถือว่าสูงมาก
แต่ผลการประเมินศึกษาที่ออกมากลับตกต่ำ
อยากให้ลองคิดว่าเมื่อเด็กที่จะเป็นอนาคตของชาติไม่มีคุณภาพแล้วต่อไปประเทศ
ชาติจะเป็นอย่างไร
จึงอยากให้ทุกคนได้ตระหนักว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างอนาคตของชาติ
นอกจากนี้อยากให้ทุกเขตพื้นที่การศึกษาเพิ่มงาน
หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความปรองดองสมานฉันท์
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญและอยากเห็นอย่างยิ่ง
“อีกเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลที่ผมจะเน้น คือ การทำงานอย่างโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
เพราะที่ผ่านมาเราถูกสังคมมองว่า
เรื่องการใช้งบประมาณหลายส่วนมีความไม่โปร่งใส
ซึ่งคิดว่าทุกคนก็คงยอมรับว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงขอให้ทุกคนตระหนักรู้
ว่าอะไรไม่ถูกต้องกับระเบียบแบบแผนนั้นมีคนเฝ้ามองอยู่
และขอให้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่สามารถปกปิดได้ แม้แต่คิดก็อย่าคิด
เพราะฉะนั้นเรื่องการใช้งบประมาณต้องโปร่งใสเป็นไปตามระเบียบ ตรวจสอบได้
มีคำอธิบาย
และผมยืนยันว่าจะผมและรมช.ศึกษาธิการไม่มีเรื่องเหล่านี้และจะไม่ยอมให้เกิด
ขึ้นอย่างเด็ดขาด ผมขอให้ทุกคนยึดหลักธรรมาภิบาล ไม่อยากให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากอำนาจหน้าที่ของพวกเรา ไม่ตกเป็นเครื่องมือของอิทธิพลไม่ว่าด้านใดก็ตาม”
รมว.ศึกษาธิการกล่าวและว่า
ปัจจุบันสังคมภายนอกมองระบบการศึกษาไทยอย่างดูแคลนว่าล้มเหลว
เพราะฉะนั้นทุกคนที่รับผิดชอบ ซึ่งรวมถึงตนด้วยก็คือจำเลยของสังคม
จึงอยากให้เรานำความคาดหวังและแรงบีบคั้นเหล่านั้น
มาเป็นพลังช่วยทำให้ผลผลิตของเราดีขึ้น
ทำให้ผลการประเมินออกมาเป็นที่น่าพอใจ เด็กมีความคิด
มีเหตุมีผลไม่ใช่จำอย่างเดียว และเติบโตขึ้นอย่างมีคุณธรรมจริยธรรม
มีจิตอาสา
และทำให้สังคมมองระบบการศึกษาอย่างยอมรับและยกมือไหว้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ
ซึ่งตนหวังว่าการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในปีนี้
ที่มา เดลินิวส์ วันพุธ 15 ตุลาคม 2557 |
โพสเมื่อ :
16 ต.ค. 57
อ่าน 1376 ครั้ง คำค้นหา :
|
|