’ส้มหล่น’นศ.อาชีวะร้อยเอ็ดเรียนจบมีงานทันทีร่วมทวิภาคีดับบลิว.ซี.เอส.ซันชิโร่เรียนรู้

          ดร.อกนิษฐ์ คลังแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เปิดเผยถึงการลงนามความร่วมมือจัดการอาชีวศึกษาระบบ ทวิภาคีด้านอุตสาหกรรมยานยนต์กับ บริษัท ดับบลิว.ซี.เอส.ซันชิโร่ (ประเทศไทย) ว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาการอาชีวศึกษา โดยสร้างโอกาสการพัฒนา ขีดความสามารถของนักศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาเทคนิคอุตสาหกรรม สาขาช่างกลโรงงาน สาขาช่างเชื่อม และสาขาช่างไฟฟ้า โดยนำร่องที่วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด และขยายผล ไปยังสถานศึกษาในสังกัด โดยรับนักศึกษาเข้าฝึกปฏิบัติงานกับบริษัท รุ่นละ 15-20 คน สัปดาห์ละ 5 วัน เป็นระยะเวลา 2 ปี เมื่อจบการศึกษาและผ่านเกณฑ์การประเมินของบริษัท จะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานต่อไป โดยนักศึกษาจะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกี่ยวกับเครื่องมือและอุปกรณ์ในธุรกิจยานยนต์ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพในอนาคตต่อไป
          นายอรรถการ ตฤษณารังสี ประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิว.ซี.เอส.ซันชิโร่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัท ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออก จำหน่ายและให้บริการหลังการจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์ ให้กับศูนย์บริการและศูนย์ฝึกอบรมของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ โดยนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับความรู้และฝึกปฏิบัติงานด้วยเทคโนโลยี ที่ทันสมัย อาทิ กล่องดำเพื่อความปลอดภัย เครื่องทดสอบการทรงตัวของรถ (พื้นเอียง) เครื่องดึงตัวถังรถยนต์ เครื่อง EC-DESIGN ชุดวัดมิติรถยนต์แบบ 3D และห้องพ่นอบสีรถยนต์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี มาให้ความรู้ด้วยวิธีการบรรยาย ในห้อง การสาธิต การปฏิบัติจริง การทำ Work shop ที่ศูนย์ปฏิบัติงานจริง On job Training การทดสอบความรู้ความเข้าใจโดยใช้แบบทดสอบ และการประเมินผลภาคปฏิบัติ พร้อมได้รับสวัสดิการต่างๆ ได้แก่ ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าเทอม ค่าหนังสือ และเมื่อสำเร็จการศึกษา บริษัทจะคัดเลือกและบรรจุเป็นพนักงาน ในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้ ตำแหน่งครูฝึก อัตราเงินเดือน 15,000-20,000 บาท และตำแหน่งควบคุมเครื่องจักร ช่างไฟฟ้า และช่างเทคนิค อัตราเงินเดือน 12,000-18,000 บาท อีกด้วย

 ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า