|
ชี้ ตั๋วครู กระตุ้นสถาบันผลิตแม่พิมพ์ต้องพัฒนา ไพฑูรย์ ชี้การบังคับให้ผู้จบสายครุศาสตร์หรือศึกษาศาสตร์ต้องขอใบอนุญาตตั๋วครู จะกระตุ้นให้สถาบันผลิตครูต้องมุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้เป็นสถาบันชั้นเลิศให้ได้ ระดับมีสมรรถนะขั้นสูงสุด นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมสัมมนาเรื่อง การรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อการประกอบวิชาชีพ ว่า ตามที่ได้มีการประกาศคุรุสภา เรื่องการรับรองปริญญาและประกาศนียบัตรทางการศึกษาเพื่อประกอบวิชาชีพ พ.ศ.2557 นั้น เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหม่ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการดำเนินงานวิชาชีพครูค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำหลักสูตร การคัดเลือกคนเก่งมาเป็นครู ดังนั้นการประชุมครั้งนี้จึงอยากให้มีการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและคณาจารย์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ว่าประกาศฉบับดังกล่าวมีปัญหาในทางปฏิบัติไม่คล่องตัวอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างความเข้าใจร่วมกันระหว่างผู้ใช้และผู้วางหลักเกณฑ์ด้วย นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ถือได้ว่าประกาศดังกล่าวเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวิชาชีพครู เพราะได้กำหนดให้ผู้เข้าเรียนตามหลักสูตรใหม่ปีการศึกษา 2557 เมื่อจบหลักสูตรแล้วจะต้องสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ดังนั้น ที่ประชุมจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมตัวเรื่องการสอบอย่างเต็มที่ โดยหลายฝ่ายมีการแสดงความคิดเห็นว่า การที่จะต้องสอบขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูนั้นเสมือนเป็นการปิดกั้น แต่ความจริงแล้วการสอบไม่ได้ปิดกั้นอะไร แต่เป็นการกระตุ้นเพื่อให้ได้ครูที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งประกาศฉบับดังกล่าวยังไม่ได้มีการบังคับใช้ทันที ดังนั้นจึงต้องมีการเตรียมการไว้ก่อน และการประเมินการทำงานสำหรับผู้ที่จะเข้าสู่วิชาชีพครูนั้น ไม่ใช่ประเมินว่าจะต้องเก่งวิชาภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่การประเมินจะต้องเน้นสมรรถนะความรู้ขั้นสูงสุดด้วย สถาบันผลิตครู โดยเฉพาะคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์ จะต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นสถาบันชั้นเลิศให้ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาการทำงานของหน่วยงานนี้ยังไม่มีความโดดเด่นเท่าที่ควร ดังนั้นสถาบันผลิตครูต่างๆ จะต้องมียุทธศาสตร์และวางเป้าหมายให้ชัดเจน โดยเฉพาะการพัฒนากรอบมาตรฐานคุณวุฒิครู เพราะครูที่ดีต้องมาจากหลากหลายองค์ประกอบ ซึ่งจะต้องวัดระดับความสามารถในการมาเป็นครูด้วย เช่น การออกแบบการคิด การศึกษา หรือคิดนอกกรอบอย่างมียุทธศาสตร์ เป็นต้น ซึ่งครูในอนาคตจะต้องมีความเป็นผู้นำ พร้อมนำพาเด็กและสังคมไปสู่โลกยุคใหม่อย่างท้าทาย โดยครูจะต้องเป็นผู้กำหนดแผนงานด้วยตนเอง เพื่อให้เด็กเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง นายไพฑูรย์กล่าว. ที่มา: http://www.thaipost.net |
| โพสเมื่อ : 13 ก.พ. 57 อ่าน 1333 ครั้ง คำค้นหา : |